กรมปศุสัตว์ ระดมพลลงพื้นที่ปูพรมพ่น แจก ยาฆ่าแมลงพาหนะโรคลัมปี สกินทั่วไทย

  •  
  •  
  •  
  •  

อธิบดีกรมปศุสัตว์ สั่งระดมพลดำเนินการ 5 มาตรการควบคุมเข้ม การแพร่ระบาดโรรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือ พร้อมประสานท้องถิ่น เข้าพื้นที่ปูพรมพ่น แจกยาฆ่าแมลงพาหนะและชี้ช่องให้เกษตรกร ในการแจ้งขอความข่วนเหลือ ย้ำหากพบสัตว์ป่วยหรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ อย่านำไปจำหน่าย ให้รีบแจ้งปศุสัตว์อำเภอ อาสาปศุสัตว์ ในพื้นที่ทันที 
     นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือสถานการณ์ และการควบคุมโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือ ว่า ได้สั่งการให้ปศุสัตว์จังหวัดดำเนินการตามมาตรการการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานควบคุมโรคท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของเชื้อ Covid-19 และเน้นย้ำการสื่อสารทำความเข้าใจแก่เกษตรกรในเรื่องการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค รวมถึงการใช้วัคซีนภายในฟาร์มเนื่องจากเป็นโรคอุบัติใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และอาการของโรคที่ดูรุนแรงอาจทำให้เกษตรกรมีความตื่นตระหนก และกังวลใจ จึงต้องเร่งสื่อสารทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ซึ่งปัจจุบันพบการรายงานการเกิดโรคแล้ว 35 จังหวัด สัตว์ป่วยจำนวน 6,763 ตัว ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ และกรมปศุสัตว์ได้กำหนด 5 มาตรการควบคุมโรคดังนี้ 
                                                   น.สพ.สรวิศ ธานีโต 
   1. ควบคุมการเคลื่อนย้ายโค กระบือ เป็นมาตรการที่สำคัญที่สุดเพื่อลดการแพร่กระจายของโรค กรณีมีความจำเป็นให้ปฏิบัติตามตามแนวทางการเคลื่อนย้ายที่กรมปศุสัตว์กำหนดอย่างเคร่งครัด,2.เฝ้าระวังการเกิดโรคอย่างใกล้ชิด เน้นการรู้โรคให้เร็ว ควบคุมได้ทัน โรคสงบได้อย่างรวดเร็ว,3.สาม ป้องกัน และควบคุมแมลงพาหะนำโรคเนื่องจากเป็นโรคที่มีแมลงเป็นพาหะนำโรค จึงขอให้เกษตรกรป้องกันโดยใช้สารกำจัดแมลงทั้งบนตัวสัตว์ และบริเวณโดยรอบฟาร์ม ทั้งในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคและในพื้นที่เสี่ยง,4.รักษาสัตว์ป่วยตามอาการ เพื่อลดความสูญเสียแก่เกษตรกร เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสไม่มียาที่ใช้ในการรักษาโดยตรง ซึ่งจำเป็นต้องรักษาตามอาการโดยแบ่งการรักษาเป็น 4 ระยะ ระยะที่ 1 สัตว์ป่วยแสดงอาการมีไข้ให้ดำเนินการให้ยาลดไข้ ระยะที่ 2 เริ่มแสดงอาการตุ่มบนผิวหนัง ให้ยาลดการอักเสบ ระยะที่ 3 ตุ่มบนผิวหนังมีการแตก หลุดลอก ให้ยารักษาแผลที่ผิวหนังร่วมกับยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ระยะที่ 4 แผลที่ผิวหนังตกสะเก็ด ใช้ยารักษาแผลภายนอกจนกว่าจะหายดี
   5.การใช้วัคซีนควบคุมโรค เนื่องจากโรคลัมปี สกิน เป็นโรคอุบัติใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นในประเทศไทย จึงยังไม่เคยมีการใช้วัคซีนในสัตว์สำหรับควบคุมและป้องกันโรคในประเทศมาก่อน ซึ่งการใช้วัคซีนมีความจำเป็นต้องใช้อย่างระมัดระวัง และติดตามผลหลังการใช้อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้กรมปศุสัตว์อยู่ระหว่างการนำเข้าวัคซีนเพื่อใช้ควบคุมโรคในพื้นที่เกิดโรค โดยที่ lot แรกที่จะนำเข้ามาจำนวน 60,000 โด๊ส ซึ่งการนำเข้าวัคซีนจะต้องได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อยืนยันความปลอดภัยของวัคซีนที่จะใช้ในสัตว์ และขอเน้นย้ำว่าการใช้วัคซีนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้โรคสงบได้ ต้องดำเนินการตามมาตรการทั้งหมดที่กล่าวมา
     พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการตามมาตรการการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด และในการลงพื้นที่ช่วยเหลือเกษตรกรขอให้เน้นประสานด่านกักกันสัตว์ อบจ. อบต. ลงพื้นที่พ่นยาฆ่าแมลง และแจกยาฆ่าแมลง ให้เกษตรกร รวมถึงให้คำแนะนำ สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ เรื่องโรคลัมปีสกินและการป้องกันด้วย และอีกข้อสั่งการคือ ให้ด่านกักกันสัตว์ทุกแห่ง ให้เป็นหลักในการควบคุมการเคลื่อนย้าย โดยเฉพาะการลักลอบจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นการนำโรคเข้ามาเพิ่มในประเทศ และการลักลอบเคลื่อนย้ายภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้โรคแพร่กระจาย
      อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือเกษตรกรปฏิบัติตามมาตรการการควบคุมโรคเพื่อลดการแพร่กระจาย และลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น หากเกษตรกรพบสัตว์ป่วยหรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ อย่านำไปจำหน่าย ให้รีบแจ้งปศุสัตว์อำเภอ อาสาปศุสัตว์ ในพื้นที่ทันที กรณีเกษตรกรยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้น หรือมีข้อสงสัยติดต่อได้ที่ สำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์(สคบ.) หรือสายด่วนแจ้งโรคระบาดกรมปศุสัตว์ callcenter 063-225-6888หรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน DLD4.0 “แจ้งการเกิดโรคระบาด” ได้ตลอดเวลา และสามารถติดตามสถานการณ์การระบาดและองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคลัมปี สกินที่เว็บไซต์ของสำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ที่ https://sites.google.com/view/dldlsd/home