สรุปผลดำเนินงานโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ ล่าสุดมีเกษตรกรได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์แล้ว 2,259 กลุ่ม จำนวน 43,399 ราย ในพื้นที่ 466,646.90 ไร่ คาดในปี 2565 เพิ่มอีก 2,394 กลุ่ม 50,442 รายในพื้นที่ 377,933.25 ไร่ กรมการข้าวต้องจ่ายเงินอุดหนุน 7,418.21 ล้านบาท
นายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์แล้ว 2,259 กลุ่ม 43,399 ราย ในพื้นที่ 466,646.90 ไร่ และคาดว่าจะมีเกษตรกรที่จะได้รับการรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์เพิ่มขึ้นในปี 2565 จำนวน 2,394 กลุ่ม 50,442 รายในพื้นที่ 377,933.25 ไร่ โดยในปี 2560 – 2564 กรมการข้าวจะต้องจ่ายเงินอุดหนุนเป็นจำนวน 7,418.21 ล้านบาทซึ่งกรมการข้าวได้จ่ายเงินอุดหนุนให้แก่เกษตรกรที่ผ่านเกณฑ์การประเมินและมีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนไปแล้ว เมื่อปี 2560 (T1, T2) จำนวน 379.35 ล้านบาท ในปี 2561 (T1, T2, T3) ได้จ่ายเงินอุดหนุนให้เกษตรกรไปแล้ว จำนวน 1,154.65 ล้านบาท
อาชว์ชัยชาญ
นายอาชว์ชัยชาญ กล่าวอีกว่า ในส่วนของปี 2562 (T1, T2, T3) นั้น เดิมจะมีเกษตรกรที่จะได้รับเงินอุดหนุนทั้งหมดคิดเป็นจำนวน 2,122.79 ล้านบาท โดยกรมการข้าวได้ดำเนินการจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่เกษตรกรไปแล้วจำนวน 1,202.69 ล้านบาท ซึ่งยังเหลือจำนวนเงินที่ยังต้องจ่ายให้เกษตรกรอีก 917.80 ล้านบาท โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะมีการจ่ายให้เกษตรกร โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1. งบประมาณที่กรมการข้าวได้รับการจัดสรรมาแล้วจำนวน 47 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงรอให้สำนักงบประมาณอนุมัติเปลี่ยนแปลงปรับแผนการใช้จ่ายจากงบดำเนินงาน ไปเป็นงบใช้จ่ายเงินอุดหนุนให้กับเกษตรกร ซึ่งหากได้รับการอนุมัติจากสำนักงบประมาณแล้ว กรมการข้าวจะนำเงินในส่วนนี้ไปจ่ายให้เกษตรกรไปพลางก่อน
2. งบประมาณที่มาจากงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นปี พ.ศ. 2564 โดยในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรอให้ทางคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติขอใช้งบประมาณ ซึ่งหากได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว กรมการข้าวจะเร่งดำเนินการจ่ายเงินอุดหนุนในส่วนที่เหลือให้กับเกษตรกรให้ครบตามจำนวน นอกจากนั้นในปี 2563 (T2,T3) กรมการข้าวต้องจ่ายเงินอุดหนุนให้เกษตรกร จำนวน 2,239.02 ล้านบาท โดยจะใช้งบประมาณปี 2565 และงบที่จะต้องขอเพิ่มเติมต่อไป
ณราวุฒิ ปิยโชติสกุลชัย
ด้านนายณราวุฒิ ปิยโชติสกุลชัย ผู้อำนวยการกองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว เปิดเผยว่า กรมการข้าวได้ดำเนินการโครงการคู่ขนาน เพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิตข้าวที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน มีตลาดรองรับ ทั้งในและต่างประเทศ สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยได้มีการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์ปี 2563/64 เชื่อมโยงตลาดประชารัฐระดับชุมชน/จังหวัดปี 2563/64 ซึ่งมีการดำเนินงานจับคู่ซื้อขายข้าวอินทรีย์ จำนวน 30 จังหวัด ที่มีมูลค่าที่รับซื้อผลผลิตถึง 6,702,300 บาท
นอกจากนั้นยังมีการเชื่อมโยงตลาดส่งออกข้าวอินทรีย์ไปต่างประเทศ ปี 2563/64 ที่ได้รับการจัดสรรโควตาโดย EU ในการส่งออกข้าวไปสหภาพยุโรปให้ผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการฯ จากกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 1,700 ตัน โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้สนับสนุนด้านตลาดและประชาสัมพันธ์ และ มีธนาคารเกษตรและสหกรณ์การเกษตรให้การสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ให้กับกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร
กรมการข้าวได้ ดำเนินโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์มาตั้งแต่ปี 2560 – ปัจจุบัน ภายใต้นโยบายการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวและรายได้ของเกษตรกร และบริหารจัดการข้าวตลอดห่วงโซ่อุปทาน ภายใต้กรอบวงเงินกว่า 9.6 พันล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ให้ได้ 1 ล้านไร่ ในปี 2564 โดยแบ่งเป้าหมายพื้นที่ส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ที่เข้าร่วมใหม่ในแต่ละปี คือ ปีที่ 1 (ปี 2560) 300,000 ไร่ ปีที่ 2 (ปี 2561) 300,000 ไร่ และปีที่ 3 (ปี 2562) 400,000 ไร่
ส่วนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับเงินอุดหนุนเพื่อชดเชยรายได้จากการผลิตข้าวที่ได้ผลผลิตลดลงในระยะเริ่มต้นของการผลิตระบบอินทรีย์ ต่อเนื่อง 3 ปีไม่เกินรายละ 15 ไร่ แบ่งเป็นเกษตรกรที่ผ่านการประเมินเตรียมความพร้อม (T1) ไร่ละ 2,000 บาท เกษตรกรที่ผ่านการประเมินระยะปรับเปลี่ยน (T2) ไร่ละ 3,000 บาท และเกษตรกรที่ได้รับรองมาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์ Organic Thailand (T3) ไร่ละ 4,000 บาท