ทำเกษตร สไตล์ “สวนพออยู่พอกิน บ้านมายิ้ม” ใช้น้ำอย่างมีค่า สู้วิกฤต”โควิด”(ดูคลิป)

  •  
  •  
  •  
  •  

ดลมนัส กาเจ

         หลายครั้งหลายครา ที่ปะเทศไทยประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจ ที่เห็นชัดเจนตอนเศรษฐกิจฟองสบู่แตก หรือ”วิกฤตต้มยำกุ้ง” ในปี 2540 และวิกฤต ซับไพรม์” หรือ“วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์” ในปี 250 พิสูจน์ชัดเจนว่า ภาคการเกษตรนั้น สามารถสู้วิกฤตให้ผ่านพ้นไปได้

    ดุจเดียวกับกับวิกฤตใหม่ “โควิด-19” คาดการณ์ว่า แรงงานจะหลั่งไหลสู่ภาคการเกษตรครั้งใหญ่อีกครั้ง และจะเป็นภาคที่จะช่วยให้คนสามารถประคองให้พ้นวิกฤตได้อีกครั้งเช่นเคย  แต่วิกฤตในครั้งนี้อย่าลีมว่า ใหญ่หลวงนัก เกิดจากศัตรูที่มองไม่เห็น ที่คอยจ้องทำลายทั้งเศรษฐกิจและชีวิตผู้คน ที่รัฐบาลต้องประกาศ “เคอร์ฟิว” เน้นให้ประชาชนอยู่กับบ้านเพื่อความปลอดภัยตัวเองและคนรอบข้าง   ซึ่งแน่นอนที่สุดการอยู่กับบ้าน ทางที่ดีที่สุดควรทำการเกษตรเล็กๆน้อยๆไปก่อน ปลูกพืชผักทุกอย่างที่กินได้ และกินทุกอย่างที่ปลูก เพื่อความประหยัดภายในครอบครัวเอง

     กระนั้นต้องยอมรับว่า วิกฤตครั้งนี้มีความแตกต่าง โดยสิ้นเชิงกับวิกฤตในอดีตที่ผ่านมา คือเดิมนั้นผู้กลับถิ่น ไปทำการเกษตร แต่สามารถที่จะใช้อย่างทั่วไปปกติด จะไป ณ หนใดก็ได้   แต่ในครั้งนี้ต้องอยู่ในกรอบของประกาศเคอร์ฟิว ที่รัฐบาลออกมาตรการให้ทุกชีวิตมีความปลอดภัย และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ ที่จะต้องดูแล และต้องทำความสะอาดอยู่อย่างเนื่อง

    “ประทีป  มายิ้ม” แห่ง “ศูนย์การเรียนรู้ ชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน สวนพออยู่พอกิน  บ้านมายิ้ม”  ต.ห้วยใหญ่  อ.บางละมุง  จ.ชลบุรี ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ของการดำรงชีพ ทำการเกษตรแบบพอเพียง ที่เป็นแบบอย่างในยุคที่ประเทศไทยกำลังประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจอันเกิดจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019หรือ “โควิด-19 “ และภัยแล้ง ที่เน้นใช้สิ่งของที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ ลงทุนน้อย โดยเฉพาะการใช้น้ำทุกหยดให้มีคุณค่า อย่างทิ้งอย่างไร้ประโยชน์ได้ทั้งใช้ล้างมอและนำไปใช้ในการปลูกผักอีก  (ดูในคลิป)