โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต
Sarah Evanega หัวหน้าฝ่าย Stakeholder Communication for Pairwise กล่าวว่า “เมื่อพูดถึงความไม่มั่นคงทางอาหาร จะพบว่าผู้คนกว่า 828 ล้านคนทั่วโลกอยู่ในสภาวะหิวโหย และเมื่อพิจารณาถึงความไม่มั่นคงทางโภชนาการตัวเลขกลับยิ่งน่าตกใจ”
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ได้แสดงให้เห็นว่า ผู้คนกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะขาดสารอาหาร Evanega จึงกล่าวว่า แม้ความมั่นคงทางอาหารจะมีความสำคัญ แต่การทำให้มั่นใจว่ามีความมั่นคงทางโภชนาการจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งนักปรับปรุงพันธุ์พืชกำลังใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีอยู่เท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น
Evanega อีกกล่าว “ในสหรัฐอเมริกา ผู้ใหญ่ในจำนวนน้อยกว่า 1 ใน 10 คน รับประทานผักและผลไม้ในปริมาณที่แนะนำต่อวัน ซึ่งมีเหตุผลทางสังคมมากมายสำหรับสิ่งนั้น แต่การปรับปรุงพันธุ์พืชสามารถมีบทบาทในการขจัดอุปสรรคเหล่านั้นในการบริโภคผักและผลไม้”
สำหรับการแก้ไขยีนนั้นเป็นเพียงส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็ง ซึ่ง Evanega เชื่อว่าจะมีเทคนิคใหม่ ๆ อีกมากมายในอนาคต ที่จะเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการช่วยเลี้ยงคน 10,000 ล้านคนภายในปี 2593 อย่างไรก็ดี Evanega กล่าวว่า “เราต้องการเครื่องมือ และ CRISPR เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จำเป็นมาก ซึ่งจะช่วยให้เกิดการสร้างนวัตกรรมในพืชและเพิ่มประสิทธิภาพ”
ครับ ความมั่นคงทางอาหารและโภชนากรสามารถสร้างได้ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่โดยเฉพาะการแก้ไขยีน และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังอยุ่ในการพัฒนา
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://seedworld.com/with-over-8-billion-mouths-to-feed-its-time-to-innovate/