“เครื่องพ่นสารป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดแบบใช้แรงลม”สุดเจ๋ง คว้ารางวัลเลิศรัฐจาก กพร.ชี้จุดเด่นฝีมือคนไทย ทำงานรวดเร็ว 20 ไร่/ชม.

  •  
  •  
  •  
  •  

“เครื่องพ่นสารป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดแบบใช้แรงลม” ของกรมวิชาการเกษตร  คว้ารางวัลวัลเลิศรัฐ ในฐานะเป็นสุดยอดผลงานวิจัยนวัตกรรม ปี 2565 ประเภทนวัตกรรมการบริการจาก กพร. ชูจุดเด่นผลงานแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรตรงจุด พลิกนวัตกรรมการพ่นสารแบบคานหัวฉีดของประเทศไทย ทำงานรวดเร็วใช้เวลาเพียฃ 1 ชั่วโมงได้ 20 ไร่ เผยแก้ปัญหาการระบาดของหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดทั่วประเทศกว่า  1 ล้านไร่ ล่าสุด 2 บริษัทเอกชนนำไปต่อยอดในเชิงธุรกิจแล้ว 

       นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม เป็นหน่วยงานวิจัยด้านเครื่องจักรกลการเกษตร ของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งในปี 2565 นี้มีผลงานที่ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประเภทนวัตกรรมการบริการประจำปี 2565 จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้หน่วยงานของรัฐที่มีผลการพัฒนาคุณภาพการให้บริการเพื่อประชาชนได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส และ เป็นธรรม และเป็นที่พึงพอใจ ผลงานที่ได้รับรางวัล คือเรื่อง “นวัตกรรมเครื่องพ่นสารป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดแบบใช้แรงลม” ผลงานวิจัยของนายยุทธนา  เครือหาญชาญพงค์  วิศวกรการเกษตรชำนาญการพิเศษ  สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม

สำหรับรางวัลที่จะเสนอขอรับรางวัลเลิศรัฐในประเภทนวัตกรรมการบริการนั้น ต้องเป็นผลงานใหม่ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานใดเคยดำเนินการมาก่อน หรือเป็นผลงานที่เกิดขึ้นจากการประยุกต์ใช้สิ่งที่มีอยู่จนเกิดนวัตกรรมต่อเนื่องในการให้บริการของหน่วยงาน  โดยเครื่องพ่นสารป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดแบบใช้แรงลม ถือเป็นการพลิกนวัตกรรมการพ่นสารแบบคานหัวฉีดของประเทศไทย  ซึ่งเครื่องพ่นสารป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดแบบใช้แรงลม  เป็นนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการระบาดของหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดกว่า  1 ล้านไร่ทั่วประเทศ

นายระพีภัทร์  กล่าวอีกว่า  การพ่นสารแบบเดิมด้วยเครื่องพ่นแบบสะพายหลังแบบใช้แรงงานคนเดินพ่น เป็นการพ่นที่มีประสิทธิภาพต่ำ ความสามารถในการพ่นเพียง 1 ไร่ต่อชั่วโมง ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดได้ทันท่วงที สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรมจึงได้ทำการออกแบบและพัฒนาเครื่องพ่นแบบใช้แรงลมช่วย ซึ่งช่วยกระจายละอองฝอยของสารที่ออกจากหัวฉีดไปโดนตัวหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดที่หลบซ่อนอยู่ในกรวยใบ  หรือใต้ใบได้โดยตรง

       ทั้งนี้โดยอาศัยหลักการของลมที่ช่วยให้เกิดการพลิกของใบข้าวโพดทำให้สารออกฤทธิ์ทั้งสารเคมีและชีวภัณฑ์  สามารถแทรกซอนบริเวณใต้ใบพืชและในกรวยข้าวโพดได้โดยง่าย  ซึ่งการใช้แรงลมช่วยนี้ไม่มีในเครื่องพ่นสารแบบคานหัวฉีดที่เกษตรกรใช้ในปัจจุบัน  จึงสามารถกล่าวได้ว่าเป็นเครื่องแรกที่ผลิตในประเทศไทย โดยเครื่องพ่นสารแบบคานหัวฉีดชนิดใช้แรงลมช่วยสามารถพ่นได้รวดเร็ว 20 ไร่ / ชั่วโมง และสามารถพ่นได้ตั้งแต่ข้าวโพดอายุ 7 วันจนถึงข้าวโพดติดฝัก

“นวัตกรรมการบริการใหม่นี้ เป็นการพ่นแบบใช้น้ำน้อย และช่วยให้ละอองสารมีความสม่ำเสมอมากกว่าการพ่นจากคานหัวฉีดแบบน้ำมาก   รวมทั้งอัตราการพ่นที่น้อยกว่าทำให้สามารถปฏิบัติงานพ่นสารได้รวดเร็วกว่า  สามารถลดจำนวนครั้งในการผสมและการเติมสาร เมื่อเทียบในปริมาณน้ำในถังพ่นสารที่เท่ากัน เครื่องพ่นสารแบบใช้ลมช่วยสามารถพ่นได้พื้นที่ที่มากกว่าถึง 2 เท่า ช่วยลดการใช้น้ำในการพ่นสารได้มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ และลดปริมาณสารเคมีและชีวภัณฑ์ลงได้ 20 เปอร์เซ็นต์   รวมทั้งจากการทำงานที่รวดเร็วยังมีส่วนช่วยในการลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจากรถแทรกเตอร์ได้มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์” นายระพีภัทร์  กล่าว

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวในตอนท้ายว่า เครื่องพ่นสารแบบคานหัวฉีดชนิดใช้แรงลมช่วยเพื่อกำจัดหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด  เป็นการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรได้อย่างตรงจุดเพราะสามารถพ่นป้องกันกำจัดการระบาดของหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โดยขณะนี้ได้มีนำเครื่องพ่นสารแบบคานหัวฉีดชนิดใช้แรงลมช่วยนำไปใช้กำจัดศัตรูพืชในนาข้าว ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และทานตะวัน   ซึ่งพืชอื่นที่มีการขยายผลสามารถพ่นได้ในทุกระยะการเจริญเติบโต    รวมทั้งนวัตกรรมบริการที่ได้รับรางวัลดังกล่าวนี้สามารถพ่นได้ทั้งสารเคมีและสารชีวภัณฑ์ตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร

        ปัจจุบันมีบริษัทเอกชน 2 บริษัทรับต้นแบบจากกรมวิชาการเกษตร ไปผลิตจำหน่ายในเชิงพาณิชย์เพื่อกระจายนวัตกรรมบริการใหม่นี้ไปสู่เกษตรกรอย่างกว้างขวาง โดยกรมวิชาการเกษตรจะเข้ารับรางวัลเลิศรัฐ ประเภทรางวัลนวัตกรรมการบริการ ระดับดี จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ในวันที่ 12 กันยายน 2565 นี้