ผู้ว่าฯวว. เสนอแนะแนวทางการจัดการวัชพืชน้ำ “จอกหูหนูยักษ์” สู่การเพิ่มมูลค่าด้วย วทน.

  •  
  •  
  •  
  •  

ผู้ว่าฯ วว. ร่วมเสนอแนะ 2 แนวทางในการจัดการวัชพืชน้ำ “จอกหูหนูยักษ์” ด้วยการนำมาเพิ่มมูลค่าด้วยเครื่องผลิตวัสดุหมักแบบเร่ง วว. และการจัดการวัชพืชน้ำนำจอกหูหนูยักษ์ผ่านกระบวนการนึ่งอบไอน้ำระดับชุมชน หวังสู่การเพิ่มมูลค่าและข้าไปแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศให้ยั่งยืน

ผศ.ดร.วีรชัย  อาจหาญ  ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ดร.พงศธร  ประภักรางกูล  รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ  ดร.รจนา  ตั้งกุลบริบูรณ์  ผอ.ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์  (ศนก.)  และ  ดร.กนกอร   อัมพรายน์   นักวิจัยอาวุโส  ศนก.   เข้าร่วมประชุมหารือการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการกำจัดจอกหูหนูยักษ์ ( เฟิร์นลอยน้ำ)

จอกหูหนูยักษ์ เป็นวัชพืชน้ำชนิดใหม่และกำจัดได้ยาก ที่มีการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วบริเวณทะเลสาบสงขลา และแหล่งน้ำอื่นๆ ของประเทศ ส่งผลให้เกิดปัญหาการกีดขวางทางระบายน้ำและการสัญจรทางน้ำ รวมถึงปัญหาด้านคุณภาพน้ำ ทั้งนี้ อันเป็นผลจากการประชุมคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ 1/2568 และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ณ จังหวัดพัทลุงและสงขลา  เพื่อรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนของ นางสาวแพทองธาร  ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี

โดยมี นายชยันต์  เมืองสง  รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร  ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการนายกรัฐมนตรีสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี   เป็นประธานการประชุมฯ  ซึ่งมีหัวหน้าหน่วยงานและผู้แทนจาก กรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน กรมประมง และกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น  เข้าร่วมการประชุม  เมื่อวันที่  24  กุมภาพันธ์ 2568   ณ ห้องประชุม  4402 ชั้น  2  อาคารสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 1 ทำเนียบรัฐบาล

โอกาสนี้ ผู้ว่าการ วว. และคณะ นำเสนอ 2 แนวทางสำหรับการจัดการจอกหูหนูยักษ์ ดังนี้คือ 1.การนำมาเพิ่มมูลค่าด้วยเครื่องผลิตวัสดุหมักแบบเร่ง วว.  ที่มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนวัสดุอินทรีย์เป็น “วัสดุปรับปรุงดิน” ได้ ภายใน 24 ชั่วโมง  ซึ่งเครื่องต้นแบบตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดกำแพงเพชร,และ 2. นำจอกหูหนูยักษ์ผ่านกระบวนการนึ่งอบไอน้ำระดับชุมชน  เพื่อทำให้ขยายพันธุ์ต่อได้ แล้วนำไปเพิ่มมูลค่าเป็น “ปุ๋ยอินทรีย์” ผ่านการหมักแบบเร่งหรือหมักร่วมกับวัสดุอื่น

ทั้ง 2 วิธีการดังกล่าวที่ วว. นำเสนอต่อที่ประชุม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการแก้ไขปัญหา/เพิ่มมูลค่าวัชพืชให้เกิดเป็นรายได้กับชุมชนในพื้นที่ โดย วว. จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องเพื่อนำแนวทาง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) เข้าไปแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศให้ยั่งยืนต่อไป