กรมส่งเสริมสหกรณ์ ชง 3 โครงการใหม่ ในที่ประชุมหารือความร่วมมือไทย – ญี่ปุ่น “JTEPA” เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว โคนมและผักของสหกรณ์ เผยตัวแทนญี่ปุ่นปิ๊งโครงการการใช้ประโยชน์เกษตรอัจฉริยะในโรงเรือนผักอินทรีย์ของเกษตรกร ระบุสอดคล้องกับนโยบายด้านเกษตรอัจฉริยะของกระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมงของญี่ปุ่น รอหารือในรายละเอียดอีกผ่านทางสถานทูตญี่ปุ่น
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการพิเศษร่วมด้านการเชื่อมโยงท้องถิ่นสู่ท้องถิ่น ภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (Japan and the Kingdom of Thailand for an Economic Partnership: JTEPA) ครั้งที่ 11 ซึ่งเป็นการประชุมทางไกล กับผู้แทนของกระทรวงเกษตร ประมงและป่าไม้ของญี่ปุ่น (Ministry of Agriculture, Forestry and Fisheries: MAFF) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (Japan International Cooperative Agency: JICA) และสหภาพสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศญี่ปุ่น (Central Union of Agricultural Co-operatives:JA-Zenchu)
ในการประชุมครั้งนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รายงานความคืบหน้าโครงการความร่วมมือที่ผ่านมา 2 โครงการ ได้แก่ โครงการการจัดการหลังเก็บเกี่ยวและการพัฒนาฐานชุมชนสำหรับผลิตภัณฑ์ชุมชน (กาแฟอาราบิก้า) และโครงการพัฒนาความร่วมมือด้านการแปรรูปสินค้าเกษตรและการตลาดในห่วงโซ่คุณค่าผลไม้ของสหกรณ์ภาคการเกษตร
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา ทางฝ่ายญี่ปุ่นได้ส่งผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นระยะสั้นมาให้คำแนะนำด้านการผลิตและการแปรรูปกาแฟเบื้องต้น และส่งอาสาสมัครชาวญี่ปุ่นมาปฏิบัติงานที่สหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา จำกัด จังหวัดเชียงใหม่และจะมีการขยายระยะเวลาโครงการไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2565 และผู้แทนจากญี่ปุ่นได้กล่าวชื่นชมและมีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือเพื่อให้ทั้ง 2 โครงการนี้ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงความร่วมมือโครงการใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการการเพิ่มประสิทธิภาพ การจัดการภายในโรงสีข้าวเพื่อลดต้นทุนการผลิตและลดผลกระทบต่อชุมชน (The cooperation project on improving management efficiency of the rice mill for reducing production costs and the impact to the community)
2) โครงการความร่วมมือยกระดับการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโคนมของสหกรณ์ (The cooperation project on raising level of product processing to increase the value of dairy products of the cooperatives) และ 3) โครงการการใช้ประโยชน์เกษตรอัจฉริยะในโรงเรือนผักอินทรีย์ของเกษตรกร(The cooperation project on smart agriculture utilization in farmers’ organic vegetable greenhouses)
โดยผู้แทนของญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจในโครงการใหม่ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์นำเสนอ โดยเฉพาะโครงการการใช้ประโยชน์เกษตรอัจฉริยะในโรงเรือนผักอินทรีย์ของเกษตรกรซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านเกษตรอัจฉริยะของกระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมงของญี่ปุ่น ซึ่งฝ่ายญี่ปุ่นจะได้หารือในรายละเอียดโครงการร่วมกับฝ่ายไทยอีกครั้งผ่านทางสถานทูตญี่ปุ่น
ส่วนอีก2 โครงการ คือ โครงการการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการภายในโรงสีข้าวเพื่อลดต้นทุนการผลิตและลดผลกระทบต่อชุมชน และโครงการความร่วมมือยกระดับการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโคนมของสหกรณ์ มีความสอดคล้องกับภารกิจขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ทางญี่ปุ่นจึงขอให้ฝ่ายไทยยื่นข้อเสนอโครงการผ่านทางกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ โดย JICA จะมีการสำรวจ Need Survey ไปยังกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ และฝ่ายญี่ปุ่นจะเข้ามานำเสนอแนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับการแปรรูปน้ำนมโคให้กับผู้แทนฝ่ายไทยได้รับทราบในโอกาสต่อไป