กรมประมงเดินหน้าโครงการ “ธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม” ในปีนี้ประเดิม Kick off ณ แหล่งน้ำหนองโสกแบ่ง จ.มหาสารคาม ด้วยการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 77,600 ตัวพร้อมขยายผลในปี 2568 อีก 20 แห่ง ทั่วประเทศ ให้คนในพื้นที่ร่วมรับผลประโยชน์ เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างเศรษฐกิจฐานรากเลี้ยงชุมชนได้อย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เป็นประธานเปิดงาน Kick off ธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม “หนองโสกแบ่ง” จังหวัดมหาสารคาม โดยมี นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง ผู้บริหารหน่วยงาน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมงาน เผยปี 2568 พร้อมขยายผลแหล่งน้ำใหม่อีก 20 แห่ง เสริมความเข้มแข็งให้ชุมชนในการบริหารจัดการแหล่งน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน สร้างความมั่นคงทางอาหาร ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ให้อยู่ดี กินดี มีรายได้เพิ่มขึ้น สอดรับนโยบาย นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายบัญชา เปิดเผยว่า ธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม เป็นกิจกรรมที่กรมประมงได้ให้ความสำคัญและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการแหล่งน้ำเป็นธนาคารสัตว์น้ำของชุมชน ด้วยกลไกการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนและการบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ และขับเคลื่อนการดำเนินโครงการฯ ตามแผนปฏิบัติงาน (Action plan) ประจำแหล่งน้ำที่ชุมชนร่วมกันจัดทำขึ้น ภายใต้หลักการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผลประโยชน์ เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ รวมถึง สร้างเศรษฐกิจฐานรากเลี้ยงชุมชนได้อย่างยั่งยืน
ส่งผลให้ปัจจุบันมีธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำเกิดขึ้นกว่า 180 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 50 จังหวัดทั่วประเทศ มีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 12,000 ราย สร้างรายได้เข้ากองทุนโครงการฯ กว่า 20 ล้านบาท ซึ่งในปี 2568 กรมประมงจะขยายการดำเนินการในแหล่งน้ำใหม่เพิ่มเติมอีก 20 แห่ง และยังคงติดตามการดำเนินการในแหล่งน้ำเก่า 40 แห่ง เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของโครงการฯ โดยในส่วนของจังหวัดมหาสารคามมีแหล่งน้ำที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ แหล่งน้ำหนองส้มโฮง ตำบลเมืองเตา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย, แหล่งน้ำหนองกุง ตำบลเสือโก้ก อำเภอวาปีปทุม, แหล่งน้ำหนองโน ตำบลนาทอง อำเภอเชียงยืน, แหล่งน้ำหนองพระราชดำริ ตำบลนาเชือก อำเภอนาเชือก และแหล่งน้ำหนองโสกแบ่ง ตำบลนาเชือก อำเภอนาเชือก ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานในวันนี้
สำหรับ “แหล่งน้ำหนองโสกแบ่ง” เป็นแหล่งน้ำปิด มีพื้นที่ขนาด 12 ไร่ มีประชากรอาศัยอยู่โดยรอบทั้งหมด 129 ครัวเรือน เดิมชุมชนมีการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ กรมประมงโดยสำนักงานประมงจังหวัดมหาสารคามและศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมหาสารคาม จึงได้เข้ามาส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มรายได้และสร้างเป็นศูนย์กลางการผลิตสัตว์น้ำของชุมชน ตั้งแต่ปี 2567 โดยสนับสนุนพันธุ์สัตว์น้ำ และเจ้าหน้าที่คอยเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำตลอดการดำเนินโครงการฯ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการประมงต่าง ๆ อาทิ การลดต้นทุนการผลิตสัตว์น้ำด้วยการเพิ่มอาหารธรรมชาติจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร การเพาะพันธุ์สัตว์น้ำด้วยชุดเพาะฟักเคลื่อนที่ ฯลฯ
รวมถึง ส่งเสริมให้มีการเลี้ยงกบนาและแหนแดงเพื่อลดต้นทุนด้านอาหารสัตว์น้ำซึ่งสามารถจำหน่ายสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกรได้อีกด้วย ปัจจุบันแหล่งน้ำหนองโสกแบ่งมีสมาชิกเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 61 ราย 127 หุ้น แบ่งออกเป็น การร่วมระดมหุ้น จำนวน 50 หุ้น และการนำวัสดุธรรมชาติ เช่น ปุ๋ยคอก ฟางข้าว มาแลกเปลี่ยนเป็นหุ้นอีก 77 หุ้น เพื่อลดการสร้างมลภาวะที่เกิดจากการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร โดยช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2568 จะมีการจัดกิจกรรมเปิดจับสัตว์น้ำ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท และมีเงินปันผลคืนสู่ชุมชนและสมาชิกโครงการฯ ไม่ต่ำกว่า 40 เปอร์เซ็นต์
การจัดงานในวันนี้ มีการมอบเงินอุดหนุนโครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วมให้กับคณะกรรมการโครงการฯ มอบเงินอุดหนุนโครงการสร้างความเข้มแข็งกลุ่มผลิตด้านประมง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ให้กับผู้แทนองค์กร และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 130,000 ตัว ประกอบด้วย ปลานิล ปลาตะเพียนขาว ปลายี่สกเทศ และปลาบ้า เพื่อเพิ่มผลผลิตทรัพยากรประมงลงในแหล่งน้ำหนองโสกแบ่ง นอกจากนี้ อธิบดีกรมประมงยังได้เดินทางไปยังแหล่งน้ำหนองใหญ่ ร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 77,600 ตัว ประกอบด้วย ปลาตะเพียนขาว ปลานิล ปลาบึก ปลายี่สกเทศ ปลาเกล็ดเงิน ปลาบ้า และกุ้งก้ามกราม
เพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำชุมชน และร่วมกิจกรรมการสร้างอาหารธรรมชาติโดยใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรนำฟางข้าวที่เหลือจากการทำนามาเป็นวัตถุดิบในการสร้างอาหารสัตว์น้ำ ธรรมชาติ ลดมลพิษจากการเผาในพื้นที่การเกษตร และส่งเสริมให้เกษตรกรมีองค์ความรู้ในการจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรได้อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์ในระยะยาวทั้งด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้กรมประมงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “แหล่งน้ำหนองโสกแบ่ง” จะเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการแหล่งน้ำให้เป็นธนาคารสัตว์น้ำของชุมชน สามารถผลิตอาหารสัตว์น้ำได้เพียงพอต่อการบริโภค ช่วยยกระดับรายได้และลดค่าครองชีพของประชาชนในพื้นที่ เสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ชุมชนเกิดความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน