กรมชลฯสั่งทุกหน่วยงาน เตรียมพร้อมรับมือ “โนอึล” คาดกระทบ 60 จังหวัด

  •  
  •  
  •  
  •  
                                                                                ดร.ทองเปลว กองจันทร์
อธิบดีกรมชลฯ ชี้ 60 จังหวัด คาดได้รับผลกระทบจากพายุลูกใหม่ “โอึล” สั่งทุกพื้นที่เฝ้าระวัง 24 ชม. ช่วยประชาชน หลังพายุยกระดับเป็นไต้ฝุ่น ล่าสุดศูนย์ปฏิบัติการเครื่องจักรกลที่ปากเกร็ด กระจายเครื่องจักรกล เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ ประจำไว้ในแต่ละภาคแล้ว
       ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมชลประทานทุกภาคส่วน พร้อมปฏิบัติงานรับมือพายุไต้ฝุ่น “โนอึล” ที่จะขึ้นฝั่งในช่วงวันที่ 18- 19 ก.ย. 2563 ตามนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่วการมา ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะได้รับผลกระทบประมาณ 60 จังหวัด โดยให้กำหนดพื้นที่น้ำหลาก พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก กำหนดคน และจัดสรรทรัพยากร ให้พร้อมทำงานตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
     พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำให้เก็บน้ำไว้ในอ่างเก็บน้ำ แก้มลิง และในลำน้ำแต่ละพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อลดผลกระทบฤดูแล้งหน้า(ปี 2563/254) เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างขนาดใหญ่ที่มีน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ มีอยู่เกือบ 20 แห่ง อาทิ เขื่อนภูมิพล เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนบางพระ เป็นต้น
       นอกจากนี้ ยังได้ให้ศูนย์ปฏิบัติการเครื่องจักรกลที่ปากเกร็ด กระจายเครื่องจักรกล เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ ประจำไว้ในแต่ละภาคแล้ว เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมงนับแต่เกิดเหตุ โดยกรณีหากมีน้ำท่วมขังในพื้นที่จะต้องเร่งเข้าช่วยเหลือให้เข้าสู่สภาพปกติโดยเร็ว
       ด้านนายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ได้สั่งการให้ ผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังทุกโครงการก่อสร้าง ไม่ให้เป็นอุปสรรคในการกีดขวางทางน้ำ ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถช่วยระบายน้ำหลากได้ทันที เพื่อบรรเทาภัยให้กับประชาชน “ ได้ให้ทุกโครงการก่อสร้างทุกแห่ง แม้จะยังไม่แล้วเสร็จ ให้พิจารณาสั่งการ เฝ้าระวัง โดยเฉพาะการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ไม่ให้เกิดอุปสรรคในการระบายน้ำ 
     “กรมชลประทาน ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์การเคลื่อนตัวของพายุไต้ฝุ่น “โนอึล” จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ซึ่งกรมชลประทานพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่ และสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 1460 ตลอด 24 ชม.”นายประพิศ กล่าว