กมธ.ทรัพยากรฯ วุฒิสภา เดินหน้าสกัดทุนบุกยึดครองที่ดิน ยืนยัน อบต.ไม่มีสิทธิ์ทำเอกสารเพื่อจดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ภบท. 5 ให้กับบริษัทเอกชน  เผยมีแผนที่จะต้องเดินหน้าร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพรของกรมป่าไม้ เพื่อหยุดยั้งขบวนการซื้อขายที่ดินในเขตป่าสงวน พร้อม เตือนท้องถิ่นต้องช่วยกันรักษาพื้นป่าของชาติ

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาติดตามกรณีการใช้ประโยชน์ที่ดินตามนโยบายการจัดที่ทำกินให้ชุมชนภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ( คทช. ) และการบุกรุกป่าเพื่อทำสวนทุเรียนในหลายจังหวัดทางภาคตะวันออกโดยเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยกรมการปกครอง , กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น , กรมชลประทาน , สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ

นายชีวะภาพ กล่าวว่า วันนี้ได้ข้อชัดเจนในระดับหนึ่งแล้วว่า กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมการปกครอง ได้ให้ข้อมูลว่าการที่ อบต.บางแห่งได้ทำเอกสารเพื่อจดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ภบท. 5 ให้กับบริษัทเอกชน ไม่สามารถทำได้ ไม่มีในสารบบและไม่มีแนวทางปฏิบัติ โดยเฉพาะเอกสารการโอนสิทธิ์ที่ดิน ภบท.5 ของอบต.บางแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการออกแบบฟอร์มเพื่อจดโอนสิทธิ์ที่ดินในป่าสงวนให้กับบริษัทเอกชน ก่อนจะการมีโอนสิทธิ์ไปยังบริษัทเอกชนอีกราย ถือว่ามีความผิดทั้งคู่

“วันนี้เอกสารชุดดังกล่าวมาถึงมือคณะกรรมาธิการ เราก็เชื่อว่าเป็นเอกสารที่ทำขึ้นจริง จะไปทำลายยังไงก็ลบล้างไม่ได้ ซึ่งทางคณะกรรมาธิการฯยืนยันจะเดินหน้าขยายผลตรวจสอบการซื้อขายที่ดิน ภบท. 5 ทั่วประเทศ โดยไม่กลัวว่าจะถูกฟ้องร้อง เพราะจะต้องทำความกระจ่างให้ประชาชนเข้าใจว่าที่ ภบท. 5 ไม่สามารถซื้อขายได้โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งมีหน้าที่หลักในการช่วยกันดูแลรักษาป่า แต่กลับไปจดทะเบียนให้เขาโอนสิทธิ์กันโดยไม่ใช่หน้าที่ของท่านผมเตือนเลยนะ อบต.ทุกแห่ง ต้องไปดูรายละเอียดดีๆว่า การที่จะไปเก็บภาษีบำรุงท้องที่เนี่ย เก็บได้ไม่เป็นไรดูตามระเบียบให้ดี แต่หากพบบริษัทที่ครอบครองพื้นที่ 500-600 ไร่ แล้วมาจ่ายภาษีเนี่ย ก็คงต้องพึงสังวรว่าถูกหรือผิดยังไง ” นายชีวะภาพ กล่าว

นอกนี้ยัง ระบุว่า การซื้อขายในที่ดิน คทช. ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่แพร่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งทางคณะกรรมาธิการฯ มีแผนที่จะต้องเดินหน้าร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพรของกรมป่าไม้ เพื่อหยุดยั้งขบวนการซื้อขายที่ดินในเขตป่าสงวน .