สยามคูโบต้า จับมือวิสาหกิจชุมชน มอบข้าวสาร 10 ตัน ผ่าน 5 กลุ่มจิตอาสาภาคประชาชน และผู้แทนจำหน่ายสยามคูโบต้า เพื่อเป็นศูนย์กลางกระจายความช่วยเหลือไปยังประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในกิจกรรม “คูโบต้า…ฟาร์มส่งสุข” ภายใต้แคมเปญ “คูโบต้าเคียงข้างสร้างอนาคต” เพื่อส่งมอบกำลังใจและความห่วงใยไปยังประชาชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ท่ามกลางวิกฤตการณ์โควิด-19 พร้อมช่วยเหลือทุกมิติของสังคมไทยสู้ไปด้วยกัน
นายพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนอาหารในหลายครัวเรือนและชุมชนต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทางสยามคูโบต้า จึงจัดกิจกรรม “คูโบต้า…ฟาร์มส่งสุข” ภายใต้ แคมเปญ “คูโบต้าเคียงข้างสร้างอนาคต”
พิษณุ มิลินทานุช
ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากวิสาหกิจชุมชน ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า – เกษตรทิพย์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่สยามคูโบต้าได้ใช้ความเชี่ยวชาญเข้ามาร่วมส่งเสริมให้เกิดเป็นชุมชนต้นแบบทางการเกษตรที่มีความเข้มแข็ง มาร่วมเป็นต้นน้ำในการส่งต่อความห่วงใย ผ่านการอุดหนุนข้าวสารหอมมะลิอินทรีย์ที่ได้มาตรฐาน และเต็มไปด้วยความพิถีพิถันใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการปลูก เก็บเกี่ยว และดำเนินการจัดส่งผลผลิตอย่างถูกสุขลักษณะ จนถึงมือผู้ป่วยและผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ที่อยู่ปลายทางจำนวน 10,000 กิโลกรัม”
นายพิษณุ กล่าวอีกว่า สยามคูโบต้าได้ส่งต่อความห่วงใยผ่าน 5 กลุ่มจิตอาสาภาคประชาชน ได้แก่ มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิร่วมกตัญญู กลุ่มเส้นด้าย (Zendai) โครงการต้องรอด โดยกลุ่ม Up for Thai เชฟกิ๊ก กมล ชอบดีงาม เจ้าของร้านอาหารชื่อดัง เลิศทิพย์ ซึ่งเป็นกองกำลังแนวหน้าช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ส่งต่อและกระจายข้าวสารหอมมะลิอินทรีย์เพื่อแจกจ่ายและเป็นวัตถุดิบประกอบอาหารให้ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อาทิ ชุมชนที่มีผู้ป่วยและผู้กักตัวและครัวกลาง นอกจากนี้ยังส่งมอบข้าวสารหอมมะลิอินทรีย์ไปยังลูกค้ารถขุดสยามคูโบต้าที่ได้รับผลกระทบจากการปิดแคมป์คนงานและปิดไซต์ก่อสร้าง ผ่านร้านค้าผู้แทนจำหน่ายฯ ที่เข้าร่วมกิจกรรมอีกส่วนหนึ่งด้วย
“แคมเปญ คูโบต้าเคียงข้างสร้างอนาคต เรามุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาในทุกมิติของความยั่งยืนของสังคมพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรไทยสู้ไปด้วยกัน อีกทั้งยังตอบโจทย์หนึ่งในนโยบายสำคัญของสยามคูโบต้า คือการตอบแทนสังคมที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ของสหประชาชาติ ในด้านความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) และยังครอบคลุมมิติความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety) ด้วยการมอบโภชนาการที่ดี ผนวกกับการให้ความสำคัญในด้านส่งเสริมเกษตรกรให้มีระบบการผลิตที่เข็มแข็งอย่างยั่งยืน เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงอาหารที่เพียงพอและดีต่อสุขภาพ” นายพิษณุ กล่าว
บุญมี สุระโคตร
ด้าน นายบุญมี สุระโคตร ประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง จากศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-เกษตรทิพย์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นชุมชนที่ผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ กล่าวว่า ในนามของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านอุ่มแสงมีความห่วงใยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญความยากลำบากในสภาวการณ์เช่นนี้ ทั้งปัญหาด้านรายได้และการหาอาหาร ชุมชนฯ รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมกับสยามคูโบต้าส่งข้าวหอมมะลิอินทรีย์ซึ่งเป็นผลผลิตแห่งความภาคภูมิใจของชุมชนไปเป็นส่วนหนึ่งของการส่งพลังให้พี่น้องผู้ประสบภัยโควิด-19 ได้รับประทาน แม้จะเป็นแรงเล็กๆ แต่ก็ได้เป็นกำลังใจให้กับทุกคนก้าวข้ามวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
อย่างไรก์ตาม สยามคูโบต้า เชื่อว่า ทุกคนจะไม่ได้สู้กับวิกฤตครั้งนี้อยู่เพียงลำพัง เราพร้อมเป็นพลังในการเติมเต็มความหวัง และกำลังใจ ตลอดจนอยู่เคียงข้างประชาชนเพื่อช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยผ่านวิกฤตนี้ได้โดยเร็ว