CPF มั่นใจธุรกิจไก่ปีཹ โต 10% โกย 50,000 ล้าน หลังตลาดจีนสดใส เล็งขยายธุรกิจโปแลนด์-เยอรมนี พร้อมจับมือ JDA ยกเครื่องซัพพลายเชน-ลดต้นทุน

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายธุรกิจไก่เนื้อและการค้าระหว่างประเทศ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (ซีพีเอฟ) เปิดเผยว่า คาดการณ์การส่งออกกลุ่มธุรกิจไก่เนื้อ ปีนี้จะขยายตัว 10% มูลค่า 50,000 ล้านบาทจากตลาดรวมส่งออก 1 แสนล้านบาท แม้ว่าในช่วงไตรมาสที่ผ่านมายอดขายยังค่อนข้างต่ำ แต่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 3 ของปี เนื่องจากขณะนี้จีนเปิดตลาดมากขึ้นจึงมีออร์เดอร์มากเกินกำลังผลิต ประกอบกับคู่แข่งส่งออกไก่เนื้อบราซิลประสบปัญหาด้านคุณภาพจึงส่งผลให้ไทยมีออร์เดอร์เพิ่ม ทั้งนี้ไก่ไทยยังมีคุณภาพ ราคา และรสชาติที่ยังเป็นจุดแข็ง

ล่าสุดบริษัทได้ลงนามกับบริษัทซอฟต์แวร์บริหารซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ระดับโลก (JDA) เพื่อยกระดับการบริหารซัพพลายเชนธุรกิจไก่ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำห่วงโซ่การผลิตไก่อยู่ในรูปแบบดิจิทัลครบวงจร (digital transformation) ถือเป็นบริษัทแรกในเอเชียที่นำระบบนี้มาใช้ ช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และช่วยลดต้นทุนเพิ่มศักยภาพธุรกิจได้ไม่ต่ำกว่า 20% ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาพัฒนา 12 เดือน แล้วเสร็จเต็มรูปแบบในเดือนเมษายนปี 2562

นายประสิทธิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า เร็ว ๆ นี้บริษัทจะขยายธุรกิจในประเทศโปแลนด์เพิ่ม 20% พร้อมเพิ่มสัดส่วนส่งออกไปยัง เยอรมนี ญี่ปุ่น และ UAE จากปัจจุบัน ซีพีเอฟมีโรงงานธุรกิจไก่เนื้อ 4 แห่ง ได้แก่ นครราชสีมา สระบุรี มีนบุรี และบางนา กำลังผลิตไก่เนื้อเฉลี่ย 8.5 ล้านตัวต่อสัปดาห์ หรือคิดเป็นต่อปี 500 ล้านตัว

ด้านนายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า การพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของบริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และการผลิต รวมถึงการให้บริการลูกค้า ซึ่งการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปฏิรูประบบซัพพลายเชนธุรกิจไก่เนื้อ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตอาหารที่มีความปลอดภัย และสามารถส่งมอบได้ถึงมือผู้บริโภคได้ตรงเวลา ระบบนี้จะเริ่มจากกลุ่มธุรกิจไก่แล้วจึงขยายสู่กลุ่มอื่นโดยบริษัท JDA จะเป็นพาร์ตเนอร์ที่ทำให้ซีพีเอฟครองความเป็นผู้นำธุรกิจเกษตรและอาหาร