กระทรวงเกษตรฯ เร่งส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการตลาดและพัฒนาอาชีพเกษตรกร หลังพบเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 11% พร้อมเดินหน้าต่อในอีก 12 จังหวัด เพื่อสร้างความเข้มแข็งกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่แบ่งเป็นภาคละ 2 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ 101,303 ไร่ เกษตรกร 16,486 ราย
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (134-135)
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ดำเนินการส่งเสริมพัฒนาอาชีพตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร ภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบานรัฐบาล ปีงบประมาณ 2566 ผ่านกิจกรรมหลักในรูปแบบการอบรมให้ความรู้ด้านการผลิต การตลาด ตลอดจนการพัฒนาอาชีพ เพื่อเพิ่มทักษะเกษตรกรและเตรียมความพร้อมยกระดับผลผลิต
ผลการดำเนินงานพบว่าผู้เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 1,741 ราย มีรายได้เพิ่มขึ้น จากเดิม 39,470 บาท/ราย เป็น 43,842 บาท/ราย คิดเป็นร้อยละ 11.08 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ ในการยกระดับรายได้เกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าใน 4 ปี จึงได้มีการกำหนดพื้นที่นำร่องในการส่งเสริมพัฒนาอาชีพในพื้นที่ 12 จังหวัด แบ่งเป็นภาคละ 2 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ 101,303 ไร่ เกษตรกร 16,486 ราย จึงได้มอบหมายหน่วยงานที่รับผิดชอบให้มีการวางแผนและกำหนดแผนการส่งเสริมการพัฒนาอาชีพและการตลาดให้ตรงกับความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อการบรรลุเป้าหมายการยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับผลการขับเคลื่อนการดำเนินงานส่งเสริมอาชีพและการตลาด โดย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ ตุลาคม 2566 – 30 เมษายน 2567 จำนวน 222 พื้นที่ เกษตรกรได้รับผลประโยชน์ จำนวน 9,706 ราย ภายใต้กรอบกิจกรรม 7 ด้าน ดังนี้ 1) ด้านการพัฒนาที่ดินและการใช้ประโยชน์ที่ดินบนพื้นฐานข้อมูล Zoning 2) ด้านพัฒนาแหล่งน้ำการพัฒนาปัจจัยพื้นฐาน 3) ด้านการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ 4) ด้านการส่งเสริมการรวมกลุ่ม 5) ด้านการสนับสนุนเข้าถึงแหล่งเงินทุน 6) ด้านการส่งเสริมและการจัดทำบัญชีครัวเรือน และ 7) ด้านอื่น ๆ โดยมีรูปแบบกิจกรรมการถ่ายทอดและอบรมองค์ความรู้ในด้านเทคโนโลยีภาคการเกษตรเพื่อยกระดับสินค้าและสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลผลิต การวางแผนด้านการตลาดและทักษะการเป็นผู้ประกอบการ
รวมถึงการส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ อีกทั้ง ส่งเสริมการรวมกลุ่มในรูปแบบสหกรณ์และกลุ่มสหกรณ์ในพื้นที่ คทช. เพื่อสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มเกษตรกร ตลอดจนการพัฒนาที่อยู่อาศัย ครอบคลุมระบบสาธารณูปโภค เศรษฐกิจ และด้านสังคม ภายใต้โครงการบ้านมั่นคง 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว นครพนม ประจวบคีรีขันธ์ ชัยภูมิ น่าน และจังหวัดเชียงราย
นอกจากนี้ รมว.ธรรมนัส ได้มอบหมายหน่วยงานภายในสังกัดต่อยอดสหกรณ์การเกษตรโสกแมว ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมู และป่าห้วยศรีคุณ จังหวัดนครพนมที่ปลูกยางพาราและข้าวให้จัดทำเป็น “โสกแมว โมเดล” ในการดำเนินการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาดให้แก่เกษตรกร อีกด้วย