“อนุชา” ชมสหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินหงษ์เจริญ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงจนสมาชิกหลุดพ้นจากความยากจน

  •  
  •  
  •  
  •  

“อนุชา” ชื่นชม สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินหงษ์เจริญ ที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งพัฒนาพื้นที่ สร้างอาชีพเสริม  ส่งผลให้มีเกษตรกรชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และก่อให้เกิดความมั่นคงในอาชีพ

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) โดยมี นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ส.ส.ชุมพร เขต 1 นายสันต์ แซ่ตั้ง ส.ส.ชุมพร เขต 2 นายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร เขต 3 นายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ พื้นที่สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินหงษ์เจริญ จำกัด ตำบลหงษ์เจริญ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567

นายอนุชา กล่าวว่า จังหวัดชุมพร มีพื้นที่ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ครอบคลุม 8 อำเภอ พื้นที่ทั้งสิ้น 570,620 ไร่ จัดที่ดินไปแล้ว จำนวน 43,488 ราย เนื้อที่ประมาณ 501,560 ไร่ โดย ส.ป.ก. ได้ประกาศกําหนดพื้นที่เป้าหมายที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จำนวน 2 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 7,235 ไร่ สามารถรองรับเกษตรกร ได้จํานวนประมาณ 749 ราย

ทั้งนี้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาผู้ไร้ที่ดินทำกิน มีการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อนำมาจัดสรรให้เกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกิน ภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งจัดสรรในรูปแบบสหกรณ์การเกษตร ในชื่อ “สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินหงษ์เจริญ จำกัด”

เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และพัฒนาศักยภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แหล่งน้ำ สาธารณูปโภค ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมสวัสดิการสังคม เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้อย่างยั่งยืน ภายใต้ศาสตร์พระราชาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่งผลให้มีเกษตรกรชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และก่อให้เกิดความมั่นคงในอาชีพ

“ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและพัฒนาที่ดินทำกินตามนโยบายรัฐบาล โดยการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแกนหลักในการพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันเกษตรกรและเศรษฐกิจฐานราก อีกทั้ง ยังต้องผลักดันให้เกษตรกรได้มีอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ นอกจากการเพาะปลูกพืช เพื่อหลุดพ้นจากความยากจน หลุดพ้นหนี้สิน ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีรายได้พอเพียงต่อการดำรงชีพ มีคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสามารถเป็นต้นแบบให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินพื้นที่อื่นๆ ได้ต่อไป” นายอนุชา กล่าวย้ำ