กระทรวงเกษตรฯ เร่งเดินหน้าหารือสหกรณ์ หนุนเกษตรกรปลูกกาแฟ หวังเชื่อมเอกชนขยายปริมาณรับซื้อ พร้อมๆผลักดันนโยบายตลาดนำการผลิตทดแทนนำเข้า หลังพบจากพบว่าไทยต้องนำเข้าจากต่างประเทศมากปีละถึง 6 หมื่นตัน 

นายสุรเดช สมิเปรม รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายธิติ โลหะปิยะพรรณ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่หารือร่วมกับสหกรณ์ผู้ปลูกกาแฟจังหวัดชุมพร จำกัด ตำบลท่าแซะ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรฯ และภาคเอกชนในการขยายปริมาณรับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกร

ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันปริมาณผลผลิตเมล็ดกาแฟดิบในประเทศไม่เพียงพอ ทำให้ต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศมากถึง 6 หมื่นตันต่อปี อีกทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายส่งเสริมการปลูกกาแฟเพื่อทดแทนการนำเข้า ตามนโยบายของปลัดกระทรวงเกษตรฯ จึงเป็นโอกาสดีที่จะร่วมกันในการส่งเสริมการผลิตกาแฟเพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทย ซึ่งกาแฟถือเป็นพืชที่มีโอกาสทางการตลาดสูง แต่ในประเทศยังมีการผลิตน้อย

สำหรับสหกรณ์ผู้ปลูกกาแฟจังหวัดชุมพร จำกัด ดำเนินธุรกิจหลายด้าน ในส่วนของธุรกิจแปรรูป ได้แก่ กาแฟคั่ว – บด , กาแฟ 3 in 1 และกาแฟสารดิบ ภายใต้ผลิตภัณฑ์ชื่อ “กาแฟชุมพร” สำหรับธุรกิจรวบรวมกาแฟนั้น สหกรณ์รวบรวมผลผลิตจากสมาชิก เครือข่ายสหกรณ์ และสหกรณ์ทั่วไป โดยในระหว่างปีบัญชี 2565 – 2566 สหกรณ์รวบรวมกาแฟได้ 276 ตัน เป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมการปลูกกาแฟ ปี 2566 ภาคใต้ (ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ตรัง พัทลุง สงขลา สตูล และยะลา) มีเนื้อที่ยืนต้น 89,643 ไร่ เนื้อที่ให้ผล 80,856 ไร่ ผลผลิต 6,909 ตัน (ข้อมูลจาก คณะทำงานพัฒนาคุณภาพข้อมูล ปริมาณการผลิตสินค้าเกษตรด้านพืชภาคใต้ ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2566)