บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น เดินหน้าขยายผลโครงการ “คูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ” เฟส 2 ส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรร่วมกันแบบรวมกลุ่ม เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลิต เกิดการสร้างรายได้ในชุมชนอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าเดินหน้าขยายผลโครงการฯ ครอบคลุม 72 จังหวัดพื้นที่การเกษตรทั่วประเทศ โชว์ผลสำเร็จของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มนาแปลงใหญ่บ้านสันหลวงอ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่รวมตัวกันสร้างชุมชนต้นแบบการทำเกษตรปลอดการเผา และแปรรูปผลผลิตสร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของชุมชนภายใต้แบรนด์ “ข้าว 108” ที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกรในกลุ่ม อีกก้าวในการเข้าไปช่วยสนับสนุนในด้านการส่งเสริมการตลาด เพื่อให้ชุมชนเติบโตด้วยตนเองอย่างมั่นคง และยั่งยืน แกนนำเกษตรกรสุดปลื้มที่สยามคูโบต้าไปชุบชีวิตใหม่ ประหยัดเวลา ทำให้ลดต้นทุนกว่า 10 เท่าตัว รายได้เพิ่มหลายเท่าตัว
นายพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาในการดำเนินงานที่ผ่านมา สยามคูโบต้า ได้ใช้ความเชี่ยวชาญและมุ่งมั่นที่จะนำเครื่องจักรกลการเกษตรเข้ามาช่วยยกระดับภาคการเกษตรของไทยให้เข้มแข็ง พร้อมที่จะก้าวสู่อนาคตของโลกเกษตรที่กำลังจะเปลี่ยนไป ตลอดจนการมุ่งเน้นที่จะทำให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยองค์ความรู้ต่างๆที่สยามคูโบต้าพร้อมมอบให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทยผ่านโครงการต่างๆ โดยหนึ่งในโครงการที่เห็นผลความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม คือ โครงการคูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ ที่สยามคูโบต้าได้สนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตรให้แก่กลุ่มเกษตรกรที่มีการรวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มสหกรณ์ หรือวิสาหกิจชุมชน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
โดยมีเป้าหมายที่พร้อมยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรมีการบริหารจัดการเครื่องจักรกลการเกษตรแบบรวมกลุ่มอย่างประสิทธิภาพ เกิดการใช้เครื่องจักรกลร่วมกัน เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต สู่การสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน นอกจากการสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตรแล้ว สยามคูโบต้ายังได้จัดอบรมการบริหารจัดการในด้านต่างๆ คำแนะนำในการใช้ การดูแลรักษา ตลอดจนมีทีมช่างบริการผู้เชี่ยวชาญเข้าไปให้บริการและให้คำปรึกษาโซลูชันการทำเกษตร รวมถึงส่งเสริมกลยุทธ์ที่จะทำให้เกิดช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้บริษัทฯได้นำกลยุทธ์ 3EX มาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของการแข่งขันของเกษตรกรไทย ซึ่งประกอบด้วย EXperimentation พัฒนาโซลูชันด้านการเกษตร เสริมองค์ความรู้ในเรื่องของนวัตกรรมให้กับสังคมเกษตรร่วมกับหน่วยงานต่างๆ EXperience การนำโซลูชันนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่มาถ่ายทอดผ่าน “คูโบต้าฟาร์ม ฟาร์มสร้างประสบการณ์เกษตรสมัยใหม่” ขยายองค์ความรู้สู่เกษตรกรและบุคคลทั่วไป และ EXpansion ส่งต่อองค์ความรู้และขยายผลสู่ภูมิภาค ผ่านโครงการชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า (SKCE) และโครงการคูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ ต่อยอดองค์ความรู้ไปยังเกษตรกรไทยทุกกลุ่มรวมถึงเพิ่มความสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านการตลาดทั้งปริมาณความต้องการและราคาเพื่อวางแผนการเพาะปลูก การสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อขยายตลาด รวมถึงการสนับสนุนการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ชุมชนเติบโตด้วยตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นแผนกลยุทธ์ที่สยามคูโบต้าได้นำเสนอบนเวทีระดับเอเชีย จนสามารถคว้าชนะเลิศ จากเวที AMF Asia Marketing Excellence Award 2022 มาครอง
สำหรับโครงการคูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มส่งมอบเครื่องจักรกลการเกษตรให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 จนปัจจุบันมีจำนวนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์การเกษตรรวมทั้งสิ้น 168 กลุ่ม ใน 59 จังหวัดทั่วประเทศ มีเกษตรกรในโครงการกว่า 13,100 ราย ครอบครองพื้นที่ทำการเกษตร 132,479 ไร่ ซึ่งครอบคลุมการเพาะปลูกในพืชที่หลากหลาย สามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มขึ้น 10% ในปีนี้ถือเป็นการขยายผลในเฟส 2 เราจึงตั้งเป้าขยายโครงการเพิ่มขึ้นอีก 80 กลุ่ม คาดว่าในปี 2566 นี้ จะมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในโครงการรวมทั้งสิ้น 248 กลุ่ม และสามารถครอบคลุมทั่วพื้นที่การเกษตรทั่วประเทศทั้ง 72 จังหวัด เพื่อส่งเสริมภาคการเกษตรไทยให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น” นายพิษณุกล่าวเสริม
ส่วนวิสาหกิจชุมชนกลุ่มนาแปลงใหญ่บ้านสันหลวง ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ถือเป็นอีกหนึ่งวิสาหกิจชุมชนในโครงการที่ประสบความสำเร็จ โดยมีพื้นที่ส่วนใหญ่ทำนาข้าว มีศักยภาพที่จะเป็นชุมชนต้นแบบในการทำเกษตรปลอดการเผาและยกระดับรายได้ผ่านการทำการตลาด จำหน่ายผลิตชุมชนภายใต้แบรนด์ “ข้าว 108” ที่สยามคูโบต้าได้เข้าไปสนับสนุนการดำเนินงานของกลุ่มฯ ส่งเสริมการทำนาแบบปลอดการเผา สร้างงาน สร้างโอกาส สร้างรายได้ ให้กับชุมชน เพื่อช่วยลดมลพิษทางอากาศที่เกิดจากการเผาในพื้นที่ภาคการเกษตรโดยใช้เครื่องจักรกลการเกษตรจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอย่างถูกวิธี รวมทั้งให้คำปรึกษาด้านโซลูชันเกษตร สู่การต่อยอดสร้างรายได้เพิ่มจากวัสดุเหลือใช้จากฟางอัดก้อนที่สามารถนำไปจำหน่ายได้อีกด้วย ตลอดจนการเข้าไปช่วยวางแผนส่งเสริมการตลาด ให้คำแนะนำในการ Re-Branding เปลี่ยนภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ดูทันสมัย เพื่อช่วยขยายช่องทางการจำหน่ายสู่ตลาดออนไลน์ เพิ่มโอกาสให้แก่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น
ด้านนายพรมมา ชาวลี้แสน ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มนาแปลงใหญ่บ้านสันหลวง กล่าวเสริมว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มนาแปลงใหญ่บ้านสันหลวง มีสมาชิกรวมกันจำนวน 143 ราย โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ทำนาข้าว ก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมโครงการฯ ทางกลุ่มฯ ได้ทำการเกษตรแบบต่างคนต่างทำในพื้นที่ของตนเอง โดยไม่มีการรวมกลุ่มใช้เครื่องจักรกลการเกษตร อีกทั้งข้าวที่ปลูกก็ต่างพันธุ์กัน ทำให้ไม่มีอำนาจต่อรองในตลาด ขายไม่ได้ราคาเท่าที่ควร แต่เมื่อได้เข้าร่วมโครงการฯ ทางกลุ่มฯ ได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตร จากสยามคูโบต้า ประกอบด้วย แทรกเตอร์ รุ่น L5018 ติดตั้งอุปกรณ์ KIS จำนวน 1 คัน เครื่องอัดฟาง HB 135 จำนวน 1 เครื่อง ชุดผานพรวน และชุดโรตารี่
หลังจากที่ได้รับการสนับสนุนของเครื่องจักรกลของสยามคูโบต้า ทำให้เกษตรกรในกลุ่มฯ ได้นำมาบริหารจัดการเครื่องจักร สำหรับสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างเป็นระบบมากขึ้น การทำนาแบบปลอดการเผา สามารถนำฟางที่อัดก้อนไปจำหน่ายเป็นรายได้เสริม สร้างงาน สร้างอาชีพให้กับสมาชิกอีกด้วย นอกจากนี้ สยามคูโบต้ายังได้สนับสนุนองค์ความรู้ในด้านต่างๆ ตลอดจนช่วยวางแผนส่งเสริมการตลาดแก่ผลผลิตของกลุ่มฯ สามารถสร้างจุดเด่นขึ้นมาให้ทันสมัย เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ พร้อมยังช่วยในเรื่องของการขยายช่องทางการจำหน่ายสู่ตลาดออนไลน์ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มฯเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ที่สำคัญหลังจากที่รับการสนับสนุนจากบริษัทสยามคูโบต้าฯแล้วสิ่งที่ได้เห็นอย่างชัดเจน ทำให้แก้ปัญหาการขาดแรงงานเป็นอย่างดี ร่นระยะเวลาการทำได้มากอย่างที่เคยทำอย่างไถ่นา ดำนาที่ต้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือนพอใช้เครื่องจักรกกลการเกษตรของสยามคูโบต้าเพียงวันครึ่งก็เสณ็จแล้ว และไปทำงานอย่างอื่น ลดต้นทุนได้มาก ประหยัดเวลา เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิมรายได้กว่า 10 เท่าตัว ทำให้เกษตรกรอยู่ดีกินดีขึ้น แม้กระทั่งฟางเดิมที่เผาทิ้งแต่ทุกวันนี้กลุ่มซื้อโดยที่เกษตรกรไม่ต้องทำอะไรไร่ละ 300 บาท
นายพรมมา บอกถึงจุดเด่นของ “ข้าว 108” เป็นข้าวที่เกิดจากความรักในเพาะปลูก ความมุ่งมั่น ความใส่ใจของ่มชาวบ้านสันหลวง ที่ต้องการให้ข้าวที่ปลูกนั้นเป็นข้าวที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภค ด้วยกระบวนการเพาะปลูกที่ประณีตเสมือนปลูกให้คนในครอบครัวทาน ซึ่งมีอยู่ 4 สายพันธุ์ ประกอบด้วย ข้าวหอมแม่จัน และข้าวกล้องหอมแม่จันที่ผ่านกระบวนการสีอย่างพิถีพิถัน โดยข้าวหอมแม่จันและข้าวกล้องแม่จันเป็นข้าวพื้นเมืองประจำถิ่น อยู่เคียงข้างแม่จันมากกว่า 100 ปี อีกทั้งยังถือเป็นมรดกของชุมชนแม่จัน มีคุณสมบัติที่เหนียวนุ่ม หอมนาน เมล็ดอวบ ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ข้าวพื้นเมืองของจังหวัดเชียงราย ที่มีเมล็ดเรียวเล็ก สีขาวนวลจากกระบวนการสีข้าวที่พิถีพิถัน คงคุณค่าและสารอาหารครบถ้วน และข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปลูกเฉพาะในฤดูฝน และเก็บเกี่ยวในฤดูหนาว มีสีเข้มสวย รสชาติเข้มข้น หอมหวาน ข้าวสวยขึ้นหม้อ
ในปีนี้สยามคูโบต้าได้จัดการประกวดรางวัล คูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ Award ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อวัดผลการบริหารจัดการการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรภายในวิสาหกิจชุมชน ตลอดจนการต่อยอดการรวมกลุ่มให้มีความแข็งแรง และการแก้ไขปัญหาจากการขาดแคลนเครื่องจักรกลการเกษตรได้ โดยกลุ่มเกษตรกรอื่นๆ ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ จะต้องมีการรวมกลุ่มในนามวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์ และมีผลิตภัณฑ์เป็นของตนเอง สามารถเข้ามาติดต่อเข้าร่วมโครงการผ่านผู้แทนจำหน่ายสยามคูโบต้าทั่วประเทศ
สยามคูโบต้า มุ่งหวังให้สนับสนุนวิสาหกิจชุมชนและกลุ่มสหกรณ์เกษตรทั่วประเทศ ในโครงการคูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ มีการบริหารจัดการเครื่องจักรฯ แบบรวมกลุ่มเป็นไปตามมาตรฐานที่ดีขึ้น สู่การยกระดับการทำเกษตรสมัยใหม่ ตลอดจนสนับสนุนการผลิตและการตลาดเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน