ชู “สหกรณ์ฯสทิงพระ” ต้นแบบ “แก้หนี้แก้จน” เล็งขยายผลสู่อีก 16 อำเภอใน จ.สงขลา

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมส่งเสริมสหกรณ์ ชูสหกรณ์การเกษตรสทิงพระ จำกัด จังหวัดสงขลาต้นแบบโครงการแก้หนี้ แก้จน ก่อนขยายผลสู่สหกรณ์อีก 16 อำเภอของจ.สงขลา หลังส่งเสริมอาชีพสมาชิกมีรายได้ปลดหนี้สหกรณ์สำเร็จ พร้อมประสานโรงพยาบาลรับซื้อผลผลิตปลอดภัยปรุงอาหารให้ผู้ป่วย ด้านผจก.สหกรณ์สทิงพระเผยจากอานิสงค์โครงการฯทำให้สมาชิกมีเงินจ่ายคืนสหกรณ์เพิ่มขึ้น จากเดิมมีดอกเบี้ยค้างจ่าย 10 ล้านบาท มาวันนี้เหลือแค่ 8 แสนบาทเท่านั้น

การลงพื้นที่จ.สงขลาของนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์และคณะ เพื่อมอบอาคารรวบรวมและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร มูลค่ากว่า 4.3 ล้านบาทให้กับสหกรณ์การเกษตรสทิงพระ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 108 ม.3 ต.จะทิ้งพระ อ.สทิงพระ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา เป็นการตอบย้ำถึงความสำเร็จของโครงการแก้หนี้แก้จน ด้วยการส่งเสริมสมาชิกปลูกพืชระยะสั้นเพื่อให้มีรายได้อันจะนำมาสู่การจ่ายหนี้ให้กับสหกรณ์ฯ

นายมนุชาธิป วรกาญจนานนท์ สหกรณ์จังหวัดสงขลา กล่าวว่า การแก้ปัญหาหนี้ค้างหัวใจสำคัญที่สุดคือ ถ้าสมาชิกมีเงิน ไม่มีใครที่จะไม่ส่งคืนให้สหกรณ์หรือคิดจะบิดพลิ้ว แต่ปัญหาเขาไม่ไม่มีแต่สหกรณืกลับไปเร่งรัดให้เขาจ่ายทั้งเงินต้น จ่ายดอกเบี้ย โดยที่เราไม่เคยคิดว่าสมาชิกจะเอารายได้มาจากไหน ทำนาปีละครั้ง บางปีก็เจอน้ำท่วม ภัยแล้งผลผลิตเสียหาย เพราะฉะนั้นเราต้องส่งเสริมอาชีพให้เขามี เมื่อเขามีรายได้เพิ่มยังไงเขาก็ยินดีมาจ่ายคืน

อย่างไรก็ตารม จากการทำฐานข้อมูลค้นหาความจริง เมื่อค้นพบว่าปัญหาหนี้ค้างเกิดจากอะไรทางสหกรณ์จะเข้าไปส่งเสริมสนับสนุนในสิ่งที่เขาขาด บังเอิญว่าสหกรณ์การเกษตรสทิงพระ จำกัด เห็นด้วย เนื่องจากว่ามีสภาพพื้นที่โหนด นา เล ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาปลูกข้าวปีละครั้งและทำตาลโตนดมีรายได้ไม่แน่นอน สำนักงานสหกรณ์จังหวัดสงขลาร่วมกับสหกรณ์การเกษตรสทิงพระ จำกัด จึงมีการส่งเสริมให้สมาชิกปลูกพืชระยะสั้นเพื่อให้สมาชิกมีรายได้เพิ่ม โดยบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ มาดูแลในเรื่องต่าง ๆ ทั้งดินและน้ำ ส่วนสหกรณ์จะดูแลการรวบรวมผลผลิตและการตลาด

“สหกรณ์การเกษตรสทิงพระ ถือว่าเป็นสหกรณ์ต้นแบบของโครงการแก้หนี้แก้จนที่เห็นความสำคัญ ในการให้สมาชิกมีรายได้ เริ่มต้นจากการเอาทุนสวัสดิการสหกรณ์ไปส่งเสริมจัดหาพันธุ์พืชให้เกษตรกรสมาชิกที่เข้ารร่วมโครงการฯเป็นการกระตุ้นจูงใจ ให้เขาหันมาทำการเกษตรแบบแผนใหม่ เขาทำมาระยะหนึ่งแล้วเห็นผลเป็นที่ประจักษ์ทำให้สมาชิกมีการขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง กรมส่งเสริมสหกรณ์ก็เลยสนับสนุนอาคารรวบรวมและแปรรูปผลผลิตจำนวน 1 หลังมูลค่า 4 ล้านบาทและทางสหกรณ์สมทบอีก 10% รวมเป็น 4.4 ล้านบาทเพื่อที่จะขยายโอกาสให้กับสหกรณ์การเกษตรสทิงพระ” นายมนุชาธิป กล่าว

สหกรณ์จังหวัดสงขลา  ย้ำด้วยว่า   จากความสำเร็จดังกล่าว ขณะนี้ได้มีการขยายผลไปยังสหกรณ์การเกษตรอื่น ๆ อาทิ สหกรณ์การเกษตรควนเนียง จำกัด สหกรณ์การเกษตรบางกล่ำ จำกัดและอีกหลายสหกรณ์ในจังหวัดสงขลาที่จะนำแนวทางนี้ไปปรับใช้ ขณะเดียวกันในส่วนเรื่องของการตลาดนั้นหลังได้ร่วมประชุมกับสาธารณสุขจังหวัด หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนจะนำผลผลิตจากโครงการฯดังกล่าวจำหน่ายให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ในจังหวัดสงขลาเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารให้กับผู้ป่วย ในโรงพยาบาลอีกด้วย

“เรื่องตลาดไม่น่าห่วงขอให้ผลผลิตมีคุณภาพและปลอดภัย วันนี้ ผมและผู้นำทุกสหกรณ์กับทางสาธารณสุขจังหวัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนไม่ว่าหน่วยภาครัฐและเอกชน นำผลผลิตที่ได้จากทุกสหกรณ์ขายให้กับโรงพยาบาลนำไปปรุงอาหการให้กับผู้ป่วย ทุกคนยกมือเห็นด้วยที่จะยกระดับการบริโภคผลผลิตที่ปลอดภัย” สหกรณ์จังหวัดสงขลา กล่าว

ด้านนางมาลิณี พานิชกรณ์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรสทิงพระ จำกัด กล่าวถึงโครงการ แก้หนี้แก้จน ว่าสหกรณ์ได้ส่งเสริมการปลูกพืชระยะสั้นแก่สมาชิกเพื่อจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้นและตลอดทั้งปี เนื่องจากการทำนา ซึ่งเป็นอาชีพหลักของสมาชิกทำได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น และทำตาลโตนด ขณะที่ปลูกพืชผักระยะสั้น เช่น พริก มะเขือ แตงกว่า ฯลฯ ปลูกได้ปีละ 2-3 รอบ โดยอาศัยช่วงหลังนาในการเพาะปลูกจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันเดียวก็แนะนำให้ปลูกพืชอื่น เช่นมะพร้าว ปาล์ม โดยปลูกแซมร่วมกับพืชอื่น ๆ เพราะถ้าปลูกมะพร้าวหรือปาล์มอย่างเดียวรอถึง 4-5 ปีกว่าได้ผลผลิต

“สมาชิกของเราส่วนใหญ่ก็โอเค สหกรณ์ก็จะเข้าไปส่งเสริมแนะนำดูแลในทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เพราะว่าบางครั้งสมาชิกบางรายเขาไม่มีประสบการณ์ เราก็ต้องไปแนะนำจากที่เขาเคยใช้ความรู้แบบเดิม ๆ ตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ต้องใช้นวัตกรรมการเข้ามาเปลี่ยนแปลงในเรื่องการทำเกษตร สหกรณ์จะดูแลทั้งหมด คนไหนทุนไม่พร้อมแต่อยากจะทำเพื่อมีรายได้แก้ปัญหาหนี้ตัวเอง สหกรณ์ก็สนับสนุนในเรื่องของปุ๋ยเรื่องของต้นพันธุ์” นางมาลิณี กล่าว

สำหรับสหกรณ์การเกษตรสทิงพระ จำกัด ปัจจุบัน มีสมาชิกทั้งหมด 2,184 ราย เมื่อปี 2552 สหกรณ์มีหนี้ค้างจากสมาชิก ทั้งหนี้ต้นและหนี้ดอก โดยมีหนี้ต้นจำนวน 50 ล้านบาทเศษ ส่วนดอกเบี้ยคงค้างจำนวน 10 กว่าล้านบาท แต่วันนี้ปิดบัญชี ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา สหกรณ์มีหนี้ทั้งหมด 126 ล้านบาท ขณะที่สมาชิกมีดอกเบี้ยคงค้างแค่ 8 แสนกว่าบาทเท่านั้น มีสมาชิกผิดสัญญาแค่จำนวน 3.5 ล้านบาท นอกนั้นเป็นหนี้ปกติทั้งหมด

อย่างไรก็ตม ในอดีตยอมรับว่าเมื่อก่อนเจอปัญหาหนี้ค้างเยอะมาก ไม่มีการส่งเสริมอาชีพอย่างจริงจัง มีแต่เรียกทวงหนี้อย่างเดียว ก็เลยมาประชุมในคณะกรรมการว่าถ้าเรามัวเอาแต่ทวงหนี้อย่างเดียวคงจะได้เงินคืนยาก เพราะเขาก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย การส่งเสริมอาชีพเพื่อให้เขามีรายได้ เขาถึงจะมีเงินมาจ่าย อีกอย่างต้องสร้างความศรัทธาในตัวคณะกรรมการฯ กรรมการ เจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องไปนั่งในหัวใจสมาชิกด้ว