ปราโมทย์ ยาใจ
รักษาราชการแทนอธิบดีกรมหม่อนไหม ชี้การผลักดันในการพัฒนาสินค้าหม่อนไหม เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันได้ ต้องเกิดจากการพัฒนาองค์กรและบุคลากรให้มีความเป็นเลิศในทุกๆ มิติ ยึดค่านิยมร่วมกันในการทำงานเพื่อประชาชน มีคุณธรรม จริยธรรม และต้องทำงานในเชิงรุก เน้นงานวิจัยที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาของเกษตรกร การมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ให้ได้
นายปราโมทย์ ยาใจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมหม่อนไหม การประชุมผู้บริหารและบุคลากรในสังกัดกรมหม่อนไหมทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้เน้นถึงการทำงานเชิงรุก เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าหม่อนไหมและเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่หน่วยงานต้องให้ความสำคัญกับการทำงานวิจัยที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาของเกษตรกร งานวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าหม่อนไหม การต่อยอดนำผลการวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมถ่ายทอดสู่เกษตรกร
ทั้งนี้เพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต สินค้ามีคุณภาพ เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและในเชิงพาณิชย์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งมุ่งเน้นการส่งเสริมการตลาดสินค้าหม่อนไหมในทุกรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมโยงภาคการผลิตสินค้าหม่อนไหมกับภาคบริการและการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการ
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้งานด้านหม่อนไหมประสบความสำเร็จบรรลุตามพันธกิจได้นั้น ต้องเกิดจากการพัฒนาองค์กรและบุคลากรให้มีความเป็นเลิศในทุกๆ มิติ ยึดค่านิยมร่วมกันในการทำงานเพื่อประชาชน มีคุณธรรม จริยธรรม มีความสามารถสูงและเป็นมืออาชีพ องค์กรมีระบบฐานข้อมูลที่พร้อมในการให้บริการ รวมทั้ง สร้างความท้าทายในการทำงานเชิงบูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งภาคเกษตรกร ภาคเอกชน และภาครัฐ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับกิจการด้านหม่อนไหมของประเทศไทย