ดลมนัส กาเจ                                    

          จากการที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จับมือกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาเกษตรกรแห่งชาติ นำโดย นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ลงพื้นที่ภายใต้โครงการ “สินค้าเกษตรไทย ก้าวไกลด้วย FTA” ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างระหว่างวันที่ 4-6 กันยายน 2563 นั้น นางอรมน ได้มีโอกาสลงพื้นที่เยี่ยมชมศักยภาพในการแปรรูปกล้วยของสหกรณ์กล้วยแปรรูปตำบลหนองตูม จำกัด อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย เพื่อพูดคุย แนะนำเกษตรกร และดันสินค้าเกษตรโดยเฉพาะกล้วยไทยสู่ตลาดต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์เอฟทีเอด้วย

            นางอรมน กล่าวว่า กรมเจรจาฯให้ความสำคัญกับสินค้าเกษตร เพื่อส่งออกโดยอาศัยเอฟทีเอ ซึ่งไทยตกกับ 18 ประเทศ รวมถึงอาเซียนด้วยโดย 16 ประเทศ ยกเลิกภาษีแล้ว เหลือเพียงเกาหลีและอินเดียวที่ยังภาษีอยู่ อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ทั่วโลกประสบกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 แต่กระนั้นขอบอกว่า สำหรับสินค้ากลับส่งออกเพิ่มขึ้น ขณะที่สินค้าอย่างอื่นลด

             “ตอนนี้ทราบว่า กล้วยแปรรูปของสหกรณ์กล้วยแปรรูปตำบลหนองตูม จำกัด มีศักยภาพสูง สามารถส่งออกได้หลายประเทศหลักๆ ที่ ประเทศจีน เกาหลีใต้ เวียดนาม กัมพูชา และมาเลเซียเป็นต้น สามารถส่งให้กับลูกค้าได้ แต่ถ้าจะให้เพิ่มมูลค่ามากขึ้น ต้องสร้างแบรนด์และเอกลักษณ์เป็นของตัวให้ได้ เพื้อเพิมมูลค้ามากยิ่งขึ้น และอสศัยประโยชน์จาก เอฟทีเอที่เรามีอยู่” อธิบดีกรมเจารจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าว (รายละเอียดในคลิป)    

     ด้าน นางนกแก้ว บุญเหมือน ประธานสหกรณ์กล้วยแปรรูปตำบลหนองตูม บอกว่า ปัจจุบันการแปรรูปกล้วยของสหกรณ์ฯนั้นในแต่ละวันจะผลิตราว 50 ตัน (กำลังผลิตของสหกรณ์ได้วันละ 60 ตัน) ส่วนหนึ่งขายในประเทศและอีกส่วนหนึ่งส่งออกในรูปแบบที่ไม่ติดแบรนด์ ทางลูกค้าจะเป็นคนติดแบรนด์ของตัวเอง แต่ช่วงการระบาดของโควิดนั้นยอมรับว่า การส่งออกน้อยลงแต่การขายผ่านออนไลน์กลับเพิ่มขึ้น จึงไม่กระทบยอดขาย ซึ่งทุกวันนี้ทุกคนทำงานหนัก บางวันต้อง 10 ชั่วโมงเพื่อผลินค้าตามต้องการของลูกค้า  แต่ปัญหาคือการขาดแคลนวัตถุดิบในประเทศที่เกิดจากภัยแล้งต้องนำเข้ากล้วยจากเวียดนาม