ดลมนัส กาเจ
ท่ามกลางผู้ประกอบการที่สนใจจะยื่นเพื่อร่วมดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก 700 เมกะวัตต์ว่า รัฐบาลจะเปิดให้ยื่นข้อเสนอเมื่อไร โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าชุมชน กลุ่ม Quick Win ขนาด 100 เมกะวัตต์ ที่หลายกลุ่มที่สนใจได้มีการเตรียมพร้อมกันแล้ว ที่เห็นชัดเนและเป็นข่าว คือกลุ่มประกอบการในรูปแบบของวิสาหกิจชุมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต่างมองกันว่า โครงการนี้อาจมีส่วนให้ชุบชีวิตของคนในชุมชนได้
ล่าสุดโครงการนี้มีการเปลี่ยนใหม่เล็กน้อย เพื่อให้เข้ากับสถายนการณ์ คือการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2563 นั้นได้เห็นชอบให้มีการการปรับปรุงหลักการและรายละเอียดโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก 700 เมกะวัตต์ ตามที่เคยผ่านการเห็นชอบเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 มาแล้ว โดยเฉพาะกลุ่ม Quick Win จำนวน 100 เมกะวัตต์ ให้ขยายเวลาออกไปถึงปี 2564 ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชน กลุ่มทั่วไป จำนวน 600 เมกะวัตต์ รอกลุ่ม Quick Win เสร็จเรียบร้อยก่อนค่อยดำเนินการ
ภายหลังจากการประชุม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งถือว่าแม่งานใหญ่ของโครงการนี้ ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดที่เป็นมติในที่ประชุมว่า ที่ประชุม กพช.มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงเงื่อนไขโรงไฟฟ้าชุมชน กลุ่ม Quick Win จำนวน 100 เมกะวัตต์ จากเดิมกำหนดว่า โครงการจะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD ภายในเดือนธันวาคม 2563 แต่หลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการแล้วพบว่า จากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจและการกระจายเชื้อของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อโครงการ รวมถึงการส่งมอบเครื่องจักรอาจจะล่าช้าออกไป จึงได้ปรับให้สามารถขยายเวลาการ COD ออกไปได้ภายในระยะเวลา 12 เดือน นับจากวันลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า นั่นหมายความว่าโครงการที่มีการเซ็นสัญญาแล้วในปี 2563 จะต้องมีการ COD ภายในปี 2564
นอกจากนี้ที่ประชุม กพช. เห็นชอบให้เปิดกว้าง ให้นำไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโรงไฟฟ้าชุมชนสามารถส่งขายเข้าสู่ระบบได้ตามความต้องการ ซึ่งเดิมกำหนดการผลิตไฟฟ้าจะต้องเอาไว้ใช้เองเป็นหลัก เหลือปริมาณไฟฟ้าเท่าไหร่ค่อยส่งขายเข้าระบบ แต่พอหลังจากมีเปิดรับฟังความคิดเห็นและได้พูดคุยกันแล้วจึงได้มีการปรับแก้เป็นมติดังกล่าว
พร้อมกันนี้ ยังให้มีการปรับแก้เรื่องของส่วนแบ่งรายได้โรงไฟฟ้าชุมชนด้วย คือจากการจำหน่ายไฟฟ้าที่ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายใดๆ แบ่งให้กับ “กองทุนโรงไฟฟ้าชุมชน” จำนวน 25 สตางค์ต่อหน่วย จากเดิมจะต้องแบ่งให้กับกองทุนหมู่บ้าน เพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการนำเงินจำนวน 25 สตางค์ต่อหน่วยเพื่อไปพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีการจัดตั้งและกำหนดระเบียบการใช้จ่ายเงินขึ้นมาใหม่ โดยให้นำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
สำหรับกองทุนโรงไฟฟ้าชุมชนจะมีองค์ประกอบจากหลายฝ่ายเข้าไปร่วม เพื่อให้เกิดการนำเงินจากกองทุนนี้ไปใช้พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากกับชุมชนได้เต็มรูปแบบ เพราะวัตถุประสงค์หลักของกองทุนหมู่บ้านเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจระดับครอบครัว แต่เห็นว่าเงินก้อนนี้ควรนำไปพัฒนาขอบข่ายของชุมชนได้กว้างขึ้น จึงได้มีการปรับให้มีแบ่งเข้ากองทุนโรงไฟฟ้าชุมชน ในส่วนโรงไฟฟ้าชุมชน กลุ่ม Quick Win คาดว่าจะเปิดให้ผู้สนใจยื่นเสนอโครงการเข้ามาภายในเดือนเมษายน นี้
จากนั้นจะมีการพิจารณาคัดเลือกแล้วลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และกำหนด COD ภายในระยะเวลา 12 เดือน ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชน กลุ่มทั่วไป จำนวน 600 เมกะวัตต์ รอกลุ่ม Quick Win เสร็จเรียบร้อยก่อนค่อยดำเนินการถัดไปครับ!