“สนธิรัตน์” ยืนยัน ไม่“ชงเอง กินเอง”งบฯ กองทุนพลังงาน ท้าตรวจสอบได้

  •  
  •  
  •  
  •  

“สนธิรัตน์” ยืนยันแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกองทุนอนุรักษ์พลังงานโปร่งใส ไม่มีการชงเองกินเองแน่นนอน สามารุตรวจสอบได้ ชี้ที่ตัวแทนสำนักงานสุขภาพแห่งชาติร่วมเป็นอนุกรรมการฯเพื่อให้ร่วมกลั่นกรองโครงการภาคประชาชนให้รอบคอบ รุบุไม่มีอำนาจอนุมัติโครงการใด ๆ ทั้งสิ้น

     นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงถึงกรณีที่สื่อออนไลน์บางสำนัก ตั้งข้อสังเกตในการบริงานงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงานว่า  การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน หรือที่เรียกสั้นๆว่า คณะอนุกรรมการกลั่นกรองกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ที่มีกรรมการบางคนใกล้ชิดตนและและถูกชงเองกินเองนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีการชงเองกินเองแต่อย่างใดแต่ตรงกันข้ามการดำเนินงานทั้งหมดเพื่อป้องกันปัญหา การทำงานจะเปิดเผยข้อมูลทุกโครงการที่ยื่นเสนอของบกองทุนอนุรักษ์ฯปี 2563 วงเงิน 10,000 ล้านบาทที่จะเปิดให้ยื่นภายในเดือนกุมถาพันธ์นี้ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

       นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 4 ชุด ในตำนวนนี้มีคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการฯก็เป็น 1 ใน 4 ชุดตั้งขึ้นมาเพื่อพิจารณาโครงการให้รอบคอบ และหลังอนุมัติโครงการก็จะมีคณะอนุกรรมการติดตามและประเมินผลซึ่งทั้ง 2 ชุดถือเป็นกลไกในการดูแลความโปร่ง หลังจากที่เปิดยื่นเสนอโครงการฯแล้ว คาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือนในการพิจารณอนุมัติโครงการได้

       ส่วนคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการที่มีการพูดถึงกันคือสำนักงานสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่บูรณาการกับกระทรวงพลังงาน และสำนักงานสุขภาพแห่งชาติก็เป็นหน่วยงานของรัฐ อยู่ภายใต้กำกับของนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้มีเรื่องที่จะต้องไปตั้งเพื่อชงเองกินเองอะไรเลย แต่การตั้งตัวแทนสำนักงานสุขภาพแห่งชาติร่วมเป็นคณะอนุกรรมการเพราะเป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดกระบวนการภาคประชาชนและมีความรู้ด้านการจัดการภาคชุมชน จึงเชิญมาร่วมโดยส่งตัวแทนเข้ามาเพื่อร่วมเป็นอนุกรรมการ เพื่อเข้ามาเพื่อร่วมกลั่นกรองโครงการภาคประชาชน

       “เราอยากเห็นโครงการอนุรักษ์พลังงานในปีนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนจริงๆ และประโยชน์ต่อชุมชนจะมีใครรู้ดีเท่ากับคนที่รู้จักชุมชน และรู้ว่าชุมชนไหนจะได้ประโยชน์เหล่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่นเลย” นายสนธิรัตน์ กล่าว

      รมว.พลังงาน กล่าวต่อไปว่า  กรณีการวิพากษ์วิจารณ์การตั้งบุคคลที่มีตำแหน่งทางการเมืองเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการฯ ด้วยนั้น ก็ถือเป็นตัวแทนของฝ่ายการเมืองที่จะเข้าไปช่วยกลั่นกรองเป็นเพียงหนึ่งเสียง และอนุกรรมการกลั่นกรองก็ไม่ได้มีใครมีอำนาจในการอนุมัติอะไรได้ทั้งนั้น เป็นเพียงการไปตั้งเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าโครงการใดเข้าเกณฑ์ก็จะได้รับการพิจารณาโดยกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ไม่ได้ไปชี้ว่าโครงการไหนได้ โครงการไหนไม่ได้ เป็นเพียงการไปตั้งเกณฑ์ให้รอบคอบโดยมาจากทุกภาคส่วน ตนในฐานะที่ดูและกระทรวงพลังงานน้อมรับคำวิจารณ์และไม่สบายใจถ้าถูกมองว่ามีการดำเนินการไม่โปร่งใส ทุกท่านที่เข้ามาร่วมงานก็ไม่สบายใจที่ถูกมองว่าไม่โปร่งใสทั้งที่เราตั้งมาด้วยเจตนาดี

      “ก็ดีครับอะไรที่มองว่าไม่โปร่งใส เราก็จะดูแลแก้ไขปัญหา พอเกิดเหตุการณ์อย่างนี้กรรมการที่ตั้งใจเข้ามาช่วยงานก็ถอดใจ ไม่อยากที่จะมาเป็นเป้าและไม่สบายใจ ซึ่งในตอนนี้ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย คนที่เขียนเรื่องนี้ก็ต้องขอความเป็นธรรม กรณีที่มีฝ่ายการเมืองเข้ามาเป็นอนุกรรมการ เพราะตัวผมก็เป็นฝ่ายการเมือง ถ้าไม่มีฝ่ายการเมืองแล้วเราจะทำอย่างไรต่อ แต่เราก็เข้าใจข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนากินเองชงเอง แต่ตรงข้ามเรามีเจตนาทำให้รอบคอบโดยให้องค์กรต่างๆ เข้ามาช่วยผลักดันโครงการ” รมว.พลังงาน กล่าว

      นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า  โครงการของกองทุนอนุรักษ์พลังงานฯ ไม่ได้มีเพียงโครงการสูบน้ำบาดาลโดยโซล่าร์เซลล์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หนึ่งในโครงการที่คาดหวังมากคือโครงการพลังงานชุมชนที่จะใช้พลังงานในการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ที่เมื่อมีพลังงานจากโซล่าร์เซลล์แล้วสามารถนำไปต่อยอดในการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จะต้องพิจารณาทุกโครงการอย่างรอบคอบ และเป็นครั้งแรกของกระทรวงพลังงานที่มีการตั้งคณะอนุกรรมการติดตามและประเมินผลหลังอนุมัติโครงการ เพื่อเป็นกลไกตัดปัญหาวิพากษ์วิจารณ์การอนุมัติโครงการที่ไม่โปร่งใส ซึ่งทุกโครงการที่เสนอมาและผ่านการพิจารณาอนุมัติจะมีการเปิดเผยทางเว็บไซต์ เพื่อให้มีการตรวจสอบได้