พงชาญ สำเภาเงิน
SME D Bank ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดกิจกรรมประจำปี “Innovation Bazaar” รวบรวมสุดยอดผลงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากคณาจารย์ของ มอ.เป็นครั้งปแรก ที่ตอบโจทย์ความต้องการของโลกในยุค 4.0 รวม 5 ด้านกว่า 50 ชิ้นงาน
นายพงชาญ สำเภาเงิน รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.)หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ธพว.ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(มอ.) จัดกิจกรรม Innovation Bazaar ระหว่างวันที่ 20 – 21 มิถุนายน 2562 ณ สำนักงานใหญ่ SME D Bank ถนนพหลโยธิน ( ติดสถานีBTS อารีย์) ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ประจำปี รวบรวมผลงานเทคโนโลยีนวัตกรรมของคณาจารย์ใน มอ. เพื่อตอบโจทย์ความต้องการโลกยุค 4.0 รวม 5 ด้านกว่า 50 ชิ้นงาน ทั้งผลงานวิจัยด้านการแพทย์ (Medical Hub) ด้าน IOT&Digital ด้านอาหารเพื่ออนาคต (Food และ Feed for Future) ด้านพลังงาน (Energy) ด้านเกษตร และประมง (Agriculture และ Fishery)
ทั้งนี้เป็นความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมหน่วยงานเครือข่ายในสังกัดที่มีเป้าหมายยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมติดปีกธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต เหมาะแก่ผู้ประกอบการที่มีแนวคิดหรือผู้บริหารภาคอุตสาหกรรมที่เฟ้นหาผลงานวิจัยสำหรับสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและภาคการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อต่อยอดต่อไป
ภายในงานจะประกอบด้วยการบรรยายพิเศษจากวิทยากรชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ด้านการนำผลงานวิจัยไปต่อยอดธุรกิจ ได้แก่ 1. บรรยายเรื่องบทบาทและนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กับการพัฒนาภาคเอกชนโดย ผศ.นพ.สุนทร วงษ์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม ม.อ. 2.บรรยายเรื่องการพัฒนาภาคเอกชนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีผ่านกลไกของอุทยานวิทยาศาสตร์โดยผศ.ดร.อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นอกจากนี้ ยังมีตัวอย่างผู้ประสบความสำเร็จจากการนำนวัตกรรมไปก่อเกิดมูลค่าเพิ่ม โดยนายพฤฒิ เกิดชูชื่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท แดรี่โฮม จำกัด บรรยายเรื่อง “นมโพรไบโอติกส์ Dairy Home จากผลงานวิจัยสู่ธุรกิจมีราคาสูง
ในส่วนของงานสัมมนา จะมีการเสวนาผลงานวิจัยและนวัตกรรม 5 คลัสเตอร์ จากวิทยากรเจ้าของผลงานวิจัยโดยตรง เพื่อแนะนำข้อมูลเชิงเทคนิคและแนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลงานวิจัยให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้
1.คลัสเตอร์ Medical Hub อาทิ ชุดรองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียมสำหรับผู้ป่วยที่มีการผ่าตัดเปิดทวารเทียมบริเวณหน้าท้องโครงสร้างโพลิเมอร์สามมิติชนิดสลายตัวได้ใช้ทางทันตกรรม แผ่นมาร์คหน้าและแผ่นแปะสิวจากบัวบกและว่านหางจระเข้ ไบโอแคลเซียมจากและผงไฮโดรไลซ์คอลลาเจนจากเศษเหลือในอุตสาหกรรมอาหารทะเล สารสกัดอัลฟาแมงโกสตินเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยาและเครื่องสำอาง เป็นต้น
2.คลัสเตอร์ IOT และ Digital นำเสนอผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น Smart ขึ้นในยุค Thailand 4.0 ไม่ว่าจะเป็นระบบติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม (Smart Environment) ซึ่งเป็นระบบวัดระดับน้ำ คุณภาพน้ำ และปริมาณน้ำฝนให้กับเมืองต่างๆ ระบบ Smart Farmหรือ การทำเกษตรอัจฉริยะเป็นการประยุกต์และผสมผสานเทคโนโลยีหลายๆ ชนิด เพื่อให้เจ้าของไร่ หรือผู้จัดการฟาร์ม สามารถเฝ้าติดตาม ความเป็นไปภายในไร่จากอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ โดยอาศัยเทคโนโลยี Multi-functional and Multi-dimensional Sensors, Smart Lighting เพื่อใช้เปิด-ปิดไฟ เพื่อประโยชน์ในการประหยัดพลังงาน และด้านความปลอดภัย เป็นต้น
3.คลัสเตอร์ Food และ Feed for Future อาทิ ผลงานวิจัย Synplus อาหารเสริมโภชนาการสำหรับผู้ป่วยไต ผลิตภัณฑ์จากน้ำผลไม้แช่อิ่ม ชุดตรวจวัดฟอร์มาลีนในอาหารเครื่องดื่มข้าวซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวไทย สายพันธุ์ที่มีราคาต่ำ ผงลาบน้ำตกเสริมกาบา เป็นต้นซึ่งเป็นนวัตกรรมอาหารเพื่ออนาคตเหมาะแก่ยุค Thailand 4.0 ทั้งสิ้น
4.คลัสเตอร์ Energy อาทิ ผลงานวิจัยกังหันลมแนวแกนตั้งแผงรับแสงอาทิตย์แบบรางพาราโบลาวงจรพิโซอิเล็กทริก สำหรับการเก็บพลังงานไฟฟ้า การวิเคราะห์หาปริมาณเอสเตอร์ในไบโอดีเซลโดยการไทเทรต เป็นต้นซึ่งงานวิจัยดังกล่าวถือเป็นงานวิจัยพลังงานทางเลือกใหม่สำหรับยุคที่กำลังประสบปัญหาด้านพลังงานอย่างยิ่ง และ 5. คลัสเตอร์ Agriculture และ Fishery อาทิ ผลงานวิจัยการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีการชีวภาพ ชุดทดสอบสังกะสีในดิน โฟมยางล่อแมลง น้ำตาลคิวบราซิทอลจากซีรั่มน้ำยางพารา และแผ่นกาวจากยางพาราต้านจุลินทรีย์ เป็นต้น
นอกจากการเสวนาจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเจ้าของผลงานโดยตรงเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้ค้นหาไอเดียสร้างแรงบันดาลใจต่อยอดธุรกิจแล้ว ยังมีการนำผลงานโดดเด่นทั้งหมดกว่า 50 ผลงาน มาจัดแสดงนิทรรศการเพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้และเข้าใจในผลิตภัณฑ์ผลงานวิจัยอย่างแท้จริง รวมถึงได้จัดห้องเจรจาจับคู่ธุรกิจ(Business Matching)สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหรือภาคอุตสาหกรรมที่สนใจในแต่ละผลงานเจรจาต่อรายด้วย พร้อมรับสิทธิประโยชน์พิเศษที่จะทำผลงานวิจัยไปทดสอบตลาดได้ฟรี อีกทั้ง มีบริการปรึกษาแนะนำสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจาก SME D Bank สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนหรือเงินเริ่มต้นปรับปรุงกิจการเพื่อต่อยอดธุรกิจเติบโตต่อไป
ผู้สนใจร่วมงานสามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ https://bit.ly/2VvuXBU หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณสิทานนท์ อมตเวทย์ และคุณณภัค พันธุ์ช่างทอง ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โทร.074 289 321 Email Sitanon.a@psu.ac.th หรือสอบถามฝ่ายส่งเสริมกิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการ SME D Bank โทร.062 783 5599
ที่มา : ข่าวทำเนียบรัฐบาล