เด็กรุ่นใหม่ดัน“ขนมไทยบ้านทองหยอด” ขาย “เซเว่นฯ”ต้องใช้ไข่เป็นวัตถุดิบถึงปีละ3.2 ล้านฟอง

  •  
  •  
  •  
  •  

 

เด็กรุ่นใหม่ทายาท SME “ขนมไทยบ้านทองหยอด” ต่อยอดธุรกิจครอบครัวที่ทำมายาวนานกว่า 40 ปี “ภาณุวัฒก์ เงินศรีสุข” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีทีวาย ฟู้ด จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ขนมไทย “บ้านทองหยอด”แห่ง.บางระกำ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มาปรับสไตล์การบริหารใหม่จากเน้นตลาดนัด ดัน “ทองหยอด-ฝอยทอง-เม็ดขนุน” บรรจุกล่อง สู่ช่องทางจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ทั่วประเทศ นอกจากจะสร้างรายให้เพิ่มมากขึ้น ยังช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่เป็นวัตถุดิบผลิตขนม ปีละประมาณ 3.2 ล้านฟอง ขณะที่ “บัญญัติ คำนูณวัฒน์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ ประกาศชัด ซีพี ออลล์ พร้อมเดินหน้าส่งเสริมและสร้างโอกาสผู้ประกอบการรายย่อย พร้อมร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทยด้วย ล่าสุดได้จัดจำหน่ายสินค้าเอสเอ็มอีรวมทั้งสิ้นกว่า 13,000รายการ

ภาณุวัฒก์ เล่ากว่า ครอบครัวทำธุรกิจขนมไทยมาตั้งแต่สมัยคุณยาย และสืบทอดมาถึงรุ่นคุณพ่อคุณแม่เป็นเวลากว่า 40 ปี ช่วยกันทำเป็นธุรกิจในครัวเรือน ส่งขายตามตลาดต่างๆ ได้รับความนิยมจากพ่อค้า แม่ค้า มารับซื้อไปขายต่อ โดยมองว่าจุดเด่นของขนมไทยบ้านทองหยอด คือ มีรสชาติกลมกล่อม หอมอร่อย วัตถุดิบผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ให้ความสำคัญและใส่ใจทุุกขั้นตอนการผลิต เพื่อให้ได้ขนมที่มีคุณภาพ ทั้งด้านรสชาติ กลิ่มหอม และถูกหลักอนามัย

เขา บอกอีกว่า เมื่อสำเร็จการศึกษาด้านการตลาด จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็ได้เข้ามาสืบทอดกิจการขนมไทย เพราะเป็นสิ่งที่ครอบครัวปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ได้วางแผนและเตรียมความพร้อมเพื่อเข้ามารับช่วงต่อ ในตอนแรกทำเฉพาะขนมทองหยอดและขนมทองหยิบ ต่อมามองเห็นโอกาสทางการขายมากขึ้น จึงทำฝอยทองและเม็ดขนุน เนื่องจากฝอยทองสามารถนำไปประยุกต์ในตลาดเบเกอรี่ได้

นอกจากนี้ยังเห็นถึงช่องทางในการขยายตลาดไปยังช่องทางอื่นๆ ซึ่งรุ่นคุณพ่อยังเข้าไม่ถึง จึงเข้าไปศึกษาช่องทางการขายด้วยตัวเอง เข้าไปดูว่ามีช่องทางใดที่สามารถส่งสินค้าไปขายได้บ้าง รวมถึงพยายามค้นคว้าหาความรู้ แม้ว่าจะคลุกคลีกับการทำขนมมาตั้งแต่เด็ก แต่ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจ ทั้งการศึกษาดูงานจากผู้ประกอบการด้านอาหารที่ประสบความสำเร็จ เรียนรู้วิธีการผลิต การพัฒนาสูตรขนมให้มีรสชาติอร่อยคงที่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ดีที่สุด และภูมิใจเสมอที่ธุรกิจขนมไทยเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานวัฒนธรรมให้อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน

หลังจากทำธุรกิจมาได้ระยะหนึ่ง จึงได้เริ่มมองหาช่องทางใหม่ๆ เพราะต้องการให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมาก โดยเข้ามานำเสนอสินค้ากับซีพี ออลล์ ในปี 2560 และได้รับโอกาสนำขนมไทยบรรจุกล่อง ภายในกล่องประกอบด้วยขนม 3 ชนิด ได้แก่ ทองหยอด ฝอยทอง และเม็ดขนุนมาจำหน่ายที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในพื้นที่ภาคใต้เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค กระทั่งปัจจุบันสินค้าดังกล่าวจำหน่ายที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั่วประเทศ

“ การที่สินค้าได้รับความนิยมจากลูกค้าจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีทีมงานของเซเว่นฯ เข้ามาช่วยเหลือดูแลด้านมาตรฐานการผลิตให้ถูกหลักเกณฑ์ ถูกสุขลักษณะ และมีทีมงานตรวจคุณภาพสินค้าเข้ามาตรวจสอบและให้ความรู้เกี่ยวกับการผลิตอาหารให้ถูกสุขอนามัย ซึ่งส่งผลดีต่อผู้บริโภค ทำให้ได้รับอาหารที่มีคุณภาพ รวมถึงได้รับความรู้ด้านการตลาด การพัฒนาแพ็คเกจจิ้งให้สวยงาม รวมทั้งมีส้อมสำหรับจิ้มขนม เพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการรับประทาน นอกจากนี้การเข้ามาเป็นคู่ค้ากับเซเว่นฯ ทำให้ผลิตภัณฑ์ขนมไทยบ้านทองหยอด เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย” เขา กล่าว

ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ทิ้งท้ายด้วยว่า ไม่เพียงแค่การพัฒนาธุรกิจเท่านั้น แต่ธุรกิจขนมไทยยังสนับสนุนและให้โอกาสแก่กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั่วประเทศ ด้วยการรับซื้อและประกันราคาไข่ไก่ ไข่เป็ด ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำขนมจากฟาร์มของเกษตรกร ในหลายพื้นที่ อาทิ จ.นครปฐม, จ.อยุธยา, จ.นครนายก และ จ.ฉะเชิงเทรารวมถึงเกษตรกรรายย่อยในชุมชนใกล้ๆโรงงานรวมแล้วปีละประมาณ3,200,000ฟอง นับเป็นการช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างแท้จริง ทำให้เกษตรกรในท้องถิ่น มีรายได้ที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ก่อให้เกิดการหมุนเวียนรายได้ในท้องถิ่น ช่วยลดอัตราการย้ายถิ่นฐานของแรงงาน

ด้านนายบัญญัติ คำนูณวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน โดยได้ส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าของผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอีที่ผลิตสินค้ามีคุณภาพมาตรฐานและเป็นที่นิยมจากประชาชนมาตลอด โดยบริษัทจะเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการ SME มีโอกาสส่งสินค้าตรงถึงมือผู้บริโภคผ่านร้านเซเว่นฯ ทั่วประเทศ และผ่านช่องทางของบริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด โดยจำหน่ายสินค้าผ่านนิตยสารทเวนตี้โฟร์ แคตตาล็อก ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ และอีคอมเมิร์ซ ปัจจุบันทั้งเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ได้จัดจำหน่ายสินค้าเอสเอ็มอีรวมทั้งสิ้นกว่า 13,000รายการ และมีการพัฒนา SME ให้เจริญก้าวหน้าเพื่อเป็นเติบโตเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

[adrotate banner=”3″]

“ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นและทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ได้ช่วยส่งเสริมและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยจำหน่ายสินค้าเอสเอ็มอีหลายประเภท โดยเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เช่น ผลไม้แปรรูป, เครื่องดื่ม, เบเกอรี่, ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เป็นต้น ซึ่งสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป รวมถึงสินค้าที่ใช้วัตถุดิบทางการเกษตรของกลุ่มธุรกิจ SME จะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ช่วยให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” นายบัญญัติ กล่าว

สำหรับผู้ประกอบการ SME ที่มีความต้องการนำสินค้ามาจำหน่ายในร้านเซเว่นฯ เหมือนขนมไทยบ้านทองหยอด สามารถนำสินค้ามาเสนอได้ที่เซเว่น อีเลฟเว่น และบริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด หรือเว็บไซต์ www.cpall.co.th, www.7eleven.co.th และ www.24shopping.co.th