หลังจากที่สภาเกษตรกรได้นำเยาวชนและเกษตรกรไปศึกษาการทำธุรกิจไผ่ครบวงจรตั้งแต่ปลูก แปรรู ป และจัดจำหน่ายไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีแล้ว ล่าสุดได้มีการต่อยอดสู่กลางน้ำแล้ว ด้วยการส่งเสริมเกษตรกรให้ทำ “ถ่านขาว” หรือ “ไวท์ชาโคล” เพื่ออุตสาหกรรม เกรด A  ที่ใช้เพื่อแท่งกรองน้ำ ไส้กรองอากาศ ถ่านไฟฉาย ยารักษาโรค เครื่องสำอาง  จนถึงอุตสาหกรรมอุปโภค/บริโภค พบสุดยอดที่ดีกว่าถ่านทั่วไป ไม่มีควัน ไม่สารพิษ ไม่ก่อโรคมะเร็งด้วย

นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ทางสภาเกษตรกรฯได้ส่งเสริมชาวบ้านให้ปลูกไผ่ เนื่องจากไผ่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายมากกว่าไม้ชนิดอื่น อาทิ อุตสาหกรรมก่อสร้าง งานหัตถกรรม เรื่องสิ่งแวดล้อม เฟอร์นิเจอร์

ทั้งนี้จากการวิจัยพบว่าไผ่มีรูพรุนมากกว่าไม้ชนิดอื่นประมาณ 10 เท่า ประโยชน์ของการมีรูพรุนมากจะช่วยดูดซับอนุมูลทั้งหลายได้มากขึ้น และขณะนี้สภาเกษตรกรฯมาถึงขั้นการพัฒนาต่อยอดทำ “ถ่านขาว”หรือ “ไวท์ชาโคล”(White Charcoal) ซึ่งเป็นถ่านคุณภาพเพื่ออุตสาหกรรมอีกเกรดหนึ่ง

นายประพัฒน์ กล่าวอีกว่า หากถ่านคุณภาพสูงจะมีคาร์บอนที่มีการนำไฟฟ้าที่ดีวัดได้จากค่าการนำไฟฟ้าหรือโอห์มมิเตอร์จะต่ำประมาณ 2-4 โอม เป็นอุตสาหกรรมอีกหนึ่งแขนงที่สภาเกษตรกรฯจะผลักดันให้รัฐบาลแก้ไขในเรื่องกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถแปรรูปไผ่ของตัวเองเข้าสู่อุตสาหกรรมได้

อย่างไรก็ตาม  ที่ผ่านมาเกษตรกรเผาถ่านเพื่อใช้ในการหุงต้ม ทำอาหารหรือปิ้งย่างทั่วไปหากมีการพัฒนาผลิตเป็นถ่าน “ไวท์ชาโคล” เวลาปิ้งย่างจะไม่มีควันและสารพิษ ดังเช่น ประเทศญี่ปุ่น เกาหลี  ที่ส่งเสริมร้านปิ้งย่างให้ใช้ถ่านไวท์ชาโคลจึงไม่ส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภค

ประกอบกับขายได้ราคาดีกว่าถึงกิโลกรัมละ 40-50 บาท ขณะที่ถ่านเผาธรรมดาขายอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 10-15 บาท เท่ากับเพิ่มมูลค่าถึงถึง 3 เท่าตัว ทั้งนี้  ถ่าน “ไวท์ชาโคล” เกิดจากการนำไม้ไผ่ไปผ่านการเผาในอุณหภูมิความร้อนที่สูงมาก ผลถ่านที่ได้สามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องอุปโภค บริโภคต่างๆ โดยสภาเกษตรกรแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานพัฒนาขึ้นด้วยมุ่งหวังให้เป็นผงถ่านไผ่เผาคุณภาพสูง

[adrotate banner=”3″]

“การเผาด้วยคุณภาพสูงจะได้ผงคาร์บอนที่บริสุทธิ์ไม่มีสิ่งเจือปนไม่มีสารตกค้างซึ่งจะมีผลต่อมนุษย์ เช่น สารก่อมะเร็ง    พยายามทำให้ถ่านเกิดความบริสุทธิ์ให้ได้มากที่สุดเพื่อคุณสมบัติในการช่วยลดความชื้น ดูดซับอนุมูลอิสระ กลิ่น เป็นถ่านขาวเพื่ออุตสาหกรรมคุณภาพเกรด A  ที่ใช้เพื่อแท่งกรองน้ำ ไส้กรองอากาศ ถ่านไฟฉาย    จนถึงอุตสาหกรรมอุปโภค/บริโภค เพื่ออาหาร ยารักษาโรค เครื่องสำอาง เป็นต้น”นายประพัฒน์ กล่าว

ประธานสภาเกษตรกรฯ กล่าวต่อไปว่า  ตอนนี้เกษตรกรไทยยังไม่มีการผลิตถ่านคุณภาพสูงเพื่ออุตสาหกรรมเพราะเกษตรกรยังไม่มีความรู้ ซึ่งสภาเกษตรกรฯเก็บรวบรวมความรู้ ทดลองอยู่นานหลายปีและนับเป็นครั้งแรกที่สภาเกษตรกรฯส่งเสริมเกษตรกรผลิตถ่านคุณภาพสูงเพื่ออุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้นำร่องเผาถ่านคุณภาพสูงด้วยเตาเผา 2 เตา และอยู่ระหว่างการปรับให้เป็นมาตรฐานที่ดีขึ้นและนิ่งมากขึ้น รวมทั้งเก็บรวบรวมความรู้ทางวิชาการเพื่อเผยแพร่ต่อไปในอนาคต

จากนี้ไปประเทศไทยจะก้าวสู่ยุคใหม่ ยุคที่เกษตรกรสามารถจะเป็นผู้ประกอบการได้ ผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพสูงขึ้น ได้ราคาสูงขึ้นและเกษตรกรจะมีรายได้มากขึ้น หากประเทศไทยเผาถ่านคุณภาพสูงเช่นไวท์ชาโคลซึ่งเป็นที่ต้องการของประเทศตะวันออกกลาง เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น จะสร้างรายได้เข้าประเทศได้อย่างมหาศาลจากอุตสาหกรรมพลังงาน

“พี่น้องเกษตรกรถ้าสนใจควรทดลองจากเล็กไปหาใหญ่ หากคิดไปถึงเรื่องของการทำถ่านกัมมันต์  , ถ่านแอคติเวเตทคาร์บอน ,  ถ่านไวท์ชาโคลจะต้องใช้ความรู้เชิงขั้นตอน(Know-how)มากขึ้น ลงทุนมากขึ้น ให้เริ่มจากไม่รู้ไปสู่สิ่งที่ต้องรู้ อย่าเริ่มต้นจากสิ่งที่ใหญ่ไปหาเล็กซึ่งอาจเป็นเรื่องไม่จริงจะเกิดปัญหาตามมามากมาย อาจจะล้มเหลวได้ ถ้าลงทุนใหญ่ๆก็ไม่เห็นด้วย ฉะนั้นให้ศึกษาก่อน” ประธานสภาเกษตรกร กล่าว

           อย่ามองข้าม“ไผ่” นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง โดยเฉพาะการผลิตถ่านขาวหรือถ่านไวท์ชาโคล เพื่ออุตสาหกรรมก็มีรายได้มากกว่าถ่านธรรมดาถึง 3 เท่า หรือ 300%ที่เดียว