หนุ่มใหญ่ฝั่งลาว ทิ้ง”นักวิชาการ”สู่”เถ้าแก่เล็ก”..พบทางเลือกที่ดีกว่า

  •  
  •  
  •  
  •  

  

         หลังจากที่ยึดอาชีพเป็นนักวิชาการ ประจำโรงเลื่อย ในเมืองสีโคตตะบอง แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว มานานกว่าค่อนชีวิต ทำให้หนุ่มใหญ่วัย 50 ปี ตัดสินใจลาออกจากงาน มาสถาปนาตัวตัวเองมาเป็นเถ้าแก่ในโครงการธุรกิจห้าดาว และเถ้าแก่เล็กเนื้อหมูตู้เย็นชุมชน-CP Pork Shop มาอยู่กับครอบครัวในนาม “ร้านบุนลด”  ทำให้วันนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถสร้างดกำไรเข้าบ้านเดือนละ 4 หมื่นบาท ถือว่าเป้นรายที่งามสำหรับค่าครองชีพใน สสป.ลาว

         บุนลด บอกว่า เป็นนักวิชาการประจำโรงเลื่อย ในเมืองสีโคตตะบอง แขวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) มากว่าค่อนชีวิต ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องเดินทางออกไปนอกพื้นที่ ต่างแขวง ต่างเมือง เพื่อติดตามตรวจสอบคุณภาพไม้ตามโรงเลื่อยต่างๆ ด้วยลักษณะงานที่ต้องเดินทางเป็นประจำทุกวันเพื่อตรวจงานให้แล้วเสร็จ ทำให้บางเดือนแทบจะไม่ได้กลับบ้าน ไม่ได้อยู่กับครอบครัว ใจหนึ่งก็พะวงว่าคนที่บ้านจะอยู่อย่างไรเมื่อไม่มีหัวหน้าครอบครัวอย่างเขาคอยดูแล ภรรยาที่ค้าขายผ้าอยู่ที่บ้านกิจการก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อครอบครัวที่เขารัก

[adrotate banner=”3″]

            บุนลด ทำงานอยู่โรงเลื่อยมาหลายสิบปี ต้องรอนแรมห่างบ้านมาตลอด แต่ไม่มีทางเลือกอื่นได้ เพราะเป็นรายได้หลักของครอบครัว กระนั้นเขามองเสมอว่า เมื่ออายุมากขึ้น ลูกๆก็เริ่มโตขึ้น แต่เขาไม่ค่อยกลับบ้าน จึงมาคิดที่จะหาอาชีพใหม่ที่ลงทุนไม่มากนัก ที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน ภรรยาและลูกๆที่สามารถดูแลกิจการได้ด้วย

            ในที่สุด หลังจาก ซี.พี.ลาว มีโครงการธุรกิจห้าดาว ที่สามารถเปิดขายได้ที่บ้านซึ่งตรงกับสิ่งที่เขาต้องการพอดี บุนลด จึงเริ่มเข้าสู่ธุรกิจนี้ทันที และเพียงเวลาไม่นานนักเขาพบว่า ธุรกิจนี้ทำให้เขามีกำไรเดือนละตกกว่า 20,000 บาท กระทั่งทีมงานของซี.พี.ได้แนะนำโครงการตู้หมูชมชน ทำให้เห็นโอกาสการขยายธุรกิจให้เติบโตและมีความมั่นคง จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาขายหมูเต็มตัว ภายใต้ชื่อร้าน “ร้านบุนลด” ในเขตกรุงเวียงจันทน์ สสป.ลาว

              “ร้านบุนลด” เถ้าแก่เล็กเนื้อหมูตู้เย็นชุมชน-CP Pork Shop จึงได้เริ่มต้นการขายเนื้อหมูในเขตชุมชนบ้านหนองบัวทอง เมืองสีโคตตะบอง แขวง เวียงจันทน์ มาตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2560 โดย บุนลด ลงทุนปรับปรุงพื้นที่หน้าบ้าน ซึ่งมีทำเลอยู่หน้าตลาดหนองบัวทอง ที่เป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีประชาการอาศัยอยู่หนาแน่น ทำให้มีโอกาสทางการตลาด โดยพนักงานซี.พี.ลาว เข้ามาช่วยปรับปรุงร้านให้ได้มาตรฐาน พร้อมให้คำแนะนำทั้งด้านธุรกิจและการออกแบบร้าน พร้อมจัดอุปกรณ์สำหรับการจำหน่ายสินค้าที่เป็นมาตรฐานของบริษัท ซึ่งออกแบบมาเพื่อจำหน่ายสินค้าที่เน้นความสดสะอาด ทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพที่ดีของสินค้าและเชื่อมั่นว่าจะได้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่สะอาดปลอดภัย

              “พอเราเริ่มทำธุรกิจตู้หมูชุมชนก็ได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า เพราะความมั่นใจในสินค้าของซี.พี. อยู่แล้ว บวกกับความแปลกใหม่ ทั้งรูปแบบร้านและผลิตภัณฑ์ที่เจาะจงว่าต้องแช่เย็นในตู้แช่ตลอดเวลา มีการแบ่งสัดส่วนในการแช่ผลิตภัณฑ์ต้องไม่ปะปนกัน แยกชั้นเหนื้อหมู เครื่องในชัดเจน ทำให้มีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยอดขายก็เพิ่มตามไปด้วย ธุรกิจจึงดำเนินไปได้อย่างเข้มแข็ง ผมภูมิใจที่ได้เป็นส่วนเชื่อมต่อให้ผู้บริโภคในชุมชนได้รับประทานอาหารปลอดภัย ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนในชุมชนได้ซื้อสินค้าไกล้บ้าน ขณะที่ตัวผมเองที่เป็นเถ้าแก่เล็กก็มีธุรกิจส่วนตัว มีรายได้เพิ่ม ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน และยังมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น” บุนลด บอกอย่างมั่นใจ

เขา เล่าถึงอนาคตสำหรับกิจการเถ้าแก่เล็กเนื้อหมูตู้เย็นชุมชนว่า จากปัจจุบันที่การขายหมูที่สร้างรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 600,000 กีบ ทำให้ในแต่ละเดือนมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากการเป็นเถ้าแก่เล็กห้าดาวและเถ้าแก่เล็กเนื้อหมูตู้เย็นชุมชนถ้าคิดเป็นเงินไทยไม่ต่ำกว่า 40,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่สูงเมื่อเทียบกับการประกอบอาชีพอื่น

         ดังนั้นหากมีโอกาสก็อยากจะขยายธุรกิจออกไปอีก โดยเริ่มจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทในลักษณะค้าส่งก่อน จากนั้นจะต่อยอดให้น้องสาวมาฝึกบริหารร้าน เป็นผู้ช่วยเรียนรู้ธุรกิจและหาทำเลเพื่อเปิดร้านใหม่เพิ่มขึ้น เพราะหวังให้อาชีพนี้เป็นธุรกิจส่วนตัวที่ช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคง สร้างคุณภาพชีวิตดีขึ้นให้กับครอบครัวและญาติๆได้ต่อไป

         บุนลด ยังฝากถึงผู้ที่สนใจจะเป็นเถ้าแก่เล็กเช่นเดียวกับเขาว่า ควรมีความรู้ด้านบัญชี เป็นคนที่รักการขาย มีมนุษยสัมพันธ์ดี รักความสะอาด ขยันอดทน ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับความสำเร็จที่เขาทำมาตลอด

          “บุนลด หลวงบันดิด” นับเป็นผู้ที่กล้าเปลี่ยนวิถีชีวิต อาชีพเดิมงานประจำในฐานะนักวิชาการที่ต้องเดินทางและห่างไกลกับครอบครัวมาตลอด หันมายึดอาชีพใหม่ในโครงการธุรกิจห้าดาว และต่อยอดสู่เถ้าแก่เล็กเนื้อหมูตู้เย็นชุมชนกับ ซี.พี.ลาว  ที่เป็นธุรกิจค่อนข้างใหม่สำหรับ สสป.ลาว จนประสบผลสำเร็จทำให้ครอบครัวอยู่ดีกินขึ้นในวันนี้ได้