บังดล คนเดิม
อีกครั้งได้มีโอกาสไปที่ “สวนแสวงหา” บ้านดอนกระเบื้อง ต.สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง หลังที่ทิ้งมานานปล่อยให้ผลหมากรากไม้ ที่ปลูกไว้หลายชนิดต้องเผชิญกับภัยแล้ง ในช่วงเคอร์ฟิว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โดควิด-9
แม้การเดินทางไปสวนแสวงหาในครั้งนี้ เมื่อไปถึงจะมีความหดหู่นิดๆกับการล้มตายของต้นกล้วยน้ำว้าหลากหลายสายพันธุ์นับร้อยต้นที่ปลูกกันแนวของสวนล้มราบกองกับพื้น มีหน่อใหม่โผลี่สูงเกือบเท่าหัว อันเกิดจากพายุโซนร้อนพัดกระหน่ำ และเหี่ยวเฉาเกิดจากภัยแล้งบ้างก็ตาม แต่เนื่องจากตามร่องสวนที่ขุดไว้ น้ำไม่แห้งขอดเหมือนที่อื่น ทำให้ต้นไม้หลายอย่างที่ปลูกแม้จะแคระแกร่นไปบ้าง แต่มาถึงกับตายสนิท
ที่แอบดีใจนิดๆ คือมะพร้าวน้ำหอมปลูกไว้กว่า 100 ต้น (หลายต้นด้วงแรดกินยอด) อายุเกือบ 3 ปีแล้ว ได้ออกผลผลิตหลายต้น ให้ได้ดื่มน้ำหอมๆหวานๆชุ่มคอ และกินเนื้อหวานๆมัน เครือแรกตั้งแต่ปลูกมา ทำให้รู้สึกว่า เรายังมีความหวังที่เราจะนำมะพร้าวน้ำหอมกลับมาแจกเพื่อนๆบ้านที่ร่มเกล้า กรุงเทพฯนั้นใกล้เป็นจริงแล้ว และอาจต่อยอดในการเพาะต้นกล้าขายใยยามที่ราคาสูงพอได้บ้าง อย่างน้อยจะได้เป็นค่ามันน้ำรถที่ขับไปเยือน
คิดว่าอีกไม่นาน ก็คงจะไปอยู่ที่สวนแสวงหาถี่ขึ้น เพราะที่พักเป็นกระท่อมน้อยกลางสวนมีแล้ว การทำงานข่าวก็มีอุปกรณ์ที่อาศัยความทันสมัยด้านเทคโนโลยีอันทันสมัยแห่งยุค พอที่จะให้เราทำงานได้เสมอ แม้จะอยู่ ณ หนใดของประเทศนี้ก็ตาม
แน่นอนเมื่อเรากำลังเป็นเจ้าของสวนน้อยกลางทุ่งนา ปลูกมะพร้าวน้ำหอมเป็นพืชหลัก สิ่งแรกที่เราได้เรียนรู้ก่อนที่เราจะตัดมะพร้าวน้ำหอมที่เราให้คนอื่นบริโภค เราต้องมีความไว้บ้างว่า จะตัดตอนไหน ที่จะให้น้ำลังหอมและหวาน เนื้ออ่อนขูดกินอร่อย
เคล็ดลับมี 2 วิธีครับ 1.ให้ดูที่กลีบครอบเปลือกผลด้านบนสุดที่ก้านผล หากผลอ่อนไม่มีเนื้อ น้ำออกเปรี้ยวนิดๆตามบริเวณขอบกลีบครอบผลจะสีขาวล้อมเป็นวงกลมถือว่ายังเก็บไม่ได้ ต้องรอรอบๆกลีบครอบผลมะพร้าวให้สีขาวหายไปเหลือเป็นสีเขียวอ่อนจึงจะเป็นช่วงที่พอดี
2.ให้ใช้นิ้วชี้ดีด ถ้าดังกลวงๆ แสดงว่ากะลายังอ่อนยังไม่ได้ แต่ถ้าดีดเสียงแน่น แสดงว่ากะลาเริ่มแข็ง ตัดเก็บมาบริโภคได้แล้ว (ดูคลิปประกอบ)