บังดล คนเดิม
“ถึงเวลที่ต้องตัดแต่งกิ่งอย่าเสียดาย กิ่งไหนไม่สมบูรณ์ กิ่งก้านเล็กๆน้อยๆตัดทิ้งให้หมด ให้เหลือเพียง 4 กิ่งที่สมบูรณ์เท่านั้น พอทับทิมแตกออกกิ่งก้านใหม่ จะออกดอก และผลผลิต แม้ทับทิมจะออกผลผลิตทั้งปี แต่ที่สวนประเสริฐสุข จะเน้นให้ออกผลผลิตปี 2 ช่วงเท่านั้น เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพ”
ทับทิมอินเดียพันธุ์ “บังวา” (BANGWA) นับเป็นพืชไม้ผลเศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าสนใจ เนื่องเจ้าของสวนประเสริฐสุข “อนุรักษ์ บุญลือ” ที่บ้านหนองขาว ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ยืนยันจากการทดลองมาหลายสายพันธุ์ พบว่าสายพันธุ์ “บังวา” ของอินเดียเหมาะที่สุดสำหรับอากาศในเมืองไทย ทนแล้งได้ดี ออกผลผลิตดก ผลโต รสชาติอร่อย กรอบ เมล็ดนุ่มราวกับไร้เมล็ด ขายตามห้างสรรพสินค้าโมเดิร์นเทรด หรือแถวย่านเยาวราช ตกผลละ 60-80 บาท ล้วนแต่นำเข้าจากต่างประเทศ 100 % จากอียิปต์ อินเดียว สเปน จีน บางส่วนจากอเมริกา มีมูลค่าราวๆปีละ 500 ล้านบาท เนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีการปลูกในเชิงพาณิชย์
ทับทิมอินเดียพันธุ์ “บังวา” มีจุดเด่น ผลใหญ่ 3-4 ผล/กก. บางผลมีขนาดถึง 500-700 กรัม ผิวสีผลสวย สีส้มแดง ผิวมัน เกลี้ยงเกลา เนื้อสีแดง สวย เมล็ดนิ่ม รสชาติหวาน กรอบอร่อย เป็นทับทิม 1 ใน 2 ของโลกที่เมล็ดนุ่มเหมือนไร้เมล็ดเหมือนทับทิมเมื่อนำมาปลูกในประเทศไทยที่สวนสุขประเสริฐ พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 130-150 ต้น ให้ผลผลิตต้นละ 30-50 กก. หรือเฉลี่ยมีผลผลิตถึงไร่ละ 5 ตัน/ปี เมื่ออายุ 2 ปีขึ้นไปถ้าปล่อยไปอาจมีผลต้นละถึง 80 กก.
หากคิดแบบง่ายขายในราคาเพียง กก.ละ 80 บาทพื้นที่ 1 ไร่จะมีรายได้ถึง 4 แสนบาท แต่ทับทิมอินเดียพันธุ์ “บังวา” ของคุณอนุรักษ์ ขายเฉพาะทางออนไลน์ และที่ร้าน 1000 พฤฏษา ที่ อ.ท่าม่วง ในราคา กก.ละ 150 บาท ไม่เพียงพอต่อความต้องการ แต่ล่าสุดได้ขยายพื้นที่จึงมีห้างสรรพสินค้าโมเดิร์นเทรด มาตกลงรับซื้อไปส่วนหนึ่งแล้ว
คุณอนุรักษ์นั้น ถือเป็นเจ้าแรกๆที่นำเข้าต้นกล้าที่เพาะเนื้อเยื่อทับทิสายพันธุ์ “บังวา” จากอินเดียเมื่อ 3 ปีก่อน เขาซื้อต้นในราคาต้นละ 400 บาท จำนวน 2,000 ต้นนำมาปลูกในประเทศไทยปรากฏว่าเพียง 1 ปีกว่า ออกผลผลิต และคุณภาพเหมือนกับที่ที่อินเดีย จึปัจจุบันขยายพื้นที่ปลูกแล้ว 12 ไร่
เขา บอกว่า ทับทิมเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมในการบริโภคในระดับสากล ทั้งการบริโภคผลสดและแปรรูปเป็นน้ำทับทิม เพราะมีประโยชน์ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แถมยังนิยมเป็นผลไม้สำหรับไหว้เจ้า ไหว้พระ ไหว้สิ่งศักดิ์ด้วย
กระนั้นการที่จะให้ต้นทับทิมอินเดียพันธุ์ “บังวา” จะให้มีผลผลิตดี มีคุณภาพ นอกจากที่จะให้ปุ๋ยใส่ปุ๋ยคอก 3 เดือน/ครั้ง สลับสูตร เสมอ 16-16-16 พอออกผลผลิต ใส่สูตร 8-24-24 บ้าง เพื่อเพิ่มรสชาติและความเข้มของสีเปลือกและสีเนื้อ ในส่วนของการให้น้ำก็เหมือนพืชทั่วไป รดน้ำ 2-3 วันครั้งแล้ว สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งคือต้อง “ตัดแต่งกิ่ง” ด้วย เพื่อให้แสงแดดเข้าถึงทุกส่วนของต้นนั่นเอง
เทคนิคในการตัดแต่งกิ่ง คุณอนุรักษ์ บอกว่า ถึงเวลที่ต้องตัดแต่งกิ่งอย่าเสียดาย กิ่งไหนไม่สมบูรณ์ กิ่งก้านเล็กๆน้อยๆตัดทิ้งให้หมด ให้เหลือเพียง 4 กิ่งที่สมบูรณ์เท่านั้น พอทับทิมแตกออกกิ่งก้านใหม่ จะออกดอก และผลผลิต แม้ทับทิมจะออกผลผลิตทั้งปี แต่ที่สวนประเสริฐสุข จะเน้นให้ออกผลผลิตปี 2 ช่วงเท่านั้น เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพ (ดูรายละเอียดในการตัดแต่งกิ่งในคลิป)
สนใจลุยสวนทับทิมอินเดีย อิมทผาลัมกินผลสดที่สวน “ประเสริฐสุข” ยังมีเวลาตัดสินใจอีก 1 วัน ทางชมรมสื่อเกษตรดิจิทัลและเอสเอ็มอีไทย จะพาไปลุยถึงแปลงเรียนรู้วิธีปลูก ซื้อต้นกล้าในสวน ในวันที่ 8 สิงหาคม 2563 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 0897835887 (หนึ่ง) 09-3697-1456(เป้)0814977680(ตา) งานนี้จะไปที่สวนแคนตัสด้วย ดูว่า เขาทำอย่างไรช่วงโควิดระบาดขายได้อาทิตย์ละ 8 หมื่รบาท