บังดล คนเดิม
ระหว่างที่มีการเสวนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “ช่องทางรวยของสินค้าเกษตรจากเอฟทีเอ” และ “ทำอย่างไรให้สินค้าเกษตรสู่ตลาดเอฟทีเอ” ณ โรงแรม บีพี สมิหลา บีซ แอนด์ รีสอร์ท อ.เมือง จ.สงขลา ภายใต้โครงการ “การเพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี ครั้งที่ 6” จัดโดยกรมกเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อแนะนำให้เกษตรได้พัฒนาคุณภาพ มาตรฐานสินค้า และแปรรูปสินค้าเกษตรโดยหวังที่อาศัยข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับ 18 ประเทศ ส่งสินค้าเกษตรจากชุมชนไปยังตลาดโลก เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมานั้น
ภายในงานเสวนามีเกษตรกรนำผลผลิตและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมาร่วมงานจำนวนมากอย่างคึกคัก ในจำนวนนั้นที่น่าสนใจคือ “ส้มจุกจะนะ” ที่เกษตรกรชาว อ.จะนะ จ.สงขลาได้ฟื้นฟูขึ้นมา หลังจากพบว่าพืชชนิดนี้กำลังจะสูญพันธุ์และกลายเป็นไม้ผลหายาก ปัจจุบันราคาส้มจุกจะนะขายกันในราคา กก.ละ 200 บาท
“ส้มจุกจะนะ” เป็นไม้ผลมาแต่โบราณแต่ปัจจุบันกลายเป็นไม้ผลที่หาได้มาก ทั้งที่ความจริงส้มจุกจะนะมีรสชาตอร่อยมาก ผลมีลักษณะกลมมน บางผลเป็นหยุดน้ำนิดๆ ด้านบนของผลเป็นจุก ขนาดของผลอยู่ที่ 3-6 ผลต่อ/กก. บางคนมองเห็นคล้ายกับส้มเช้ง แต่มีจุกอยู่ด้านบน ทำให้หลายคนมองว่า จะปอกเปลือกยากหรือไม่?
นายอาซราน เต๊ะสอ นักวิชาการส่งเริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรเกษตรอำเภอจะนะ และมีสวนส้มจุกจะนะด้วย ได้สาธิตวิธีการแกะเปลือกส้มจุกจะนะ พร้อมเล่าว่า การปอกเปลือส้มจุกจะนะง่ายนิดเดียว เพียงเอามีดคมกรีดลงบนผิวเปลือกลึกราวครึ่งเซ็นติเมตรเป็นสี่ฉีก หรือกากระบากบนเปลือกส้มจุกจะนะมาจากช่วงก้นสุด จากนั้นใช้มือแกะออกมา เปลือกล่อนออกจะเห็นเนื้อส้มเป็นสีน้ำผึ้ง ส่วนเปลือกส้มจุกจะนะ มีกลิ่นหอมมาก และจากการปลอกเปลือกส้มจุกจะนะด้วยการแกะตามรอยกรีด จึงนิยมเรียกว่า “แกะเปลือก”มากกว่าจะเรียกว่าปอกเปลือกนั่นเอง (ดูภาพประกอบในคลิป)