กรมการข้าว ชูว์ชุมชนตัวอย่าง “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มมีเส้นบางกินน้ำ” ตำบลบางเหรียง อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา แหล่งผลิตข้าวไร่ “ดอกข่า GI” เป็นข้าวพื้นถิ่นของดีจังหวัดพังงา ชี้ลักษณะเด่นเมล็ดเรียวยาว กลิ่นหอมคล้ายใบเตย มีความนุ่ม รสชาติอร่อย อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 9 มีสรรพคุณทางสมุนไพรหลายอย่าง
นางจรัญจิต เพ็งรัตน์ รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว กรมการข้าว กล่าวว่า ข้าวเป็นผลิตผลทางการเกษตรประเภทหนึ่งที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือสินค้า GI ได้ และจะเป็นโอกาสในการสร้างมูลค่าสินค้าที่สูงขึ้น โดยการเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของชุมชนในอดีตที่เกี่ยวพันกับเรื่องข้าวผสานกับวัฒนธรรมที่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นนั้น ๆ
ปัจจุบันสินค้า GI ประเภทข้าวของไทยมีมากกว่า 20 รายการ ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกลายเป็นพืชเศรษฐกิจ สร้างความคุ้มค่า – ความยั่งยืนให้กับระบบเกษตร และโอกาสในการทำตลาดทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ โมเดิร์นเทรด นอกจากนี้ สินค้า GI ยังมีความน่าสนใจในแง่มูลค่าเศรษฐกิจซึ่งทำรายได้มากกว่า 7.1 หมื่นล้านบาทต่อปี
อย่างที่ จ.พังพา พันธุ์ข้าวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI คือ การปลูก“ข้าวไร่ดอกข่า” ในพื้นที่จังหวัดพังงงาซึ่งมีหลายวิสาหกิจชุมชนยังคงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์พันธุ์ข้าว รักษากรรมวิธีในการผลิต รวมถึงการต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปและผลักดันให้เป็นของดีประจำจังหวัดพังงา นอกจากนี้ ข้าวไร่ดอกข่ายังเปรียบเสมือนพืชเศรษฐกิจของจังหวัดซึ่งทำรายได้ให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อําเภอตะกั่วทุ่ง อําเภอท้ายเหมือง อําเภอเมืองและอําเภอทับปุด จังหวัดพังงา ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกเป็นดินร่วน ดินร่วนปนดินเหนียว หรือดินร่วนปนดินทราย ซึ่งเกิดจากการสลายตัวของหินชนิดต่าง ๆ เช่น หินอัคนี หินตะกอน หินแปร มีการระบายน้ำได้ดี
ความโดดเด่นของข้าวไร่ดอกข่าที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรคือ เป็นข้าวที่มีเมล็ดเรียวยาว กลิ่นหอมคล้ายใบเตย เมื่อหุงสุก มีความนุ่ม ไม่แข็ง รสชาติอร่อย อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 9 ช่วยลดคอเรสเตอรอล และช่วยเพิ่มระดับ HDL ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์และช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคโลหิตจาง ชะลอการเสื่อมสุขภาพไม่ให้แก่ก่อนวัย ช่วยกำจัดเซลล์ที่ตายแล้ว เป็นต้น ทั้งนี้โดยส่วนมากผู้บริโภคจะนิยมซื้อทั้งรูปแบบข้าวกล้อง และข้าวขัดสี และเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้รักสุขภาพ และกลุ่มร้านอาหารในพื้นที่ และร้านอาหารระดับพรีเมียม
ทั้งนี้ อําเภอทับปุด มีหนึ่งชุมชนที่เป็นแหล่งผลิตข้าวไร่ดอกข่าที่สำคัญคือ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มมีเส้นบางกินน้ำ ตำบลบางเหรียง อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ที่เป็นทั้งพื้นที่ต้นแบบในการเพาะปลูกที่สำคัญของจังหวัด การผลิตเมล็ดพันธุ์ และการผลิตข้าวสำเร็จรูปเพื่อกระจายไปยังช่องทางต่าง ๆ
ด้าน นางวิถาน อาจการ ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มมีเส้นบางกินน้ำ เปิดเผยว่า กรมการข้าวได้ให้การส่งเสริมองค์ความรู้ การพัฒนาการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว – สินค้าข้าวให้ตรงกับความต้องการของตลาด เพื่อเชื่อมโยงไปยังผู้บริโภค โดยวิสาหกิจชุมชนกลุ่มมีเส้นบางกินน้ำ ตำบลบางเหรียง อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ประกอบไปด้วยชาวบ้านในพื้นที่รวม 20 คน 20 ครัวเรือน พื้นที่ปลูกข้าวรวม 100 ไร่ เกษตรกรจะทำการปลูกข้าวด้วยกรรมวิธีอินทรีย์ผสานกับการใช้เทคโนโลยี
โดยการทำนาปีละ 1 ครั้ง มีฤดูกาลเพาะปลูกคือเดือน สิงหาคม – พฤศจิกายน และเก็บเกี่ยวในช่วงเดือน ธันวาคม ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 300 กิโลกรัม/ไร่ โดยปีที่ผ่านมามีผลผลิตรวม 30 ตัน สามารถจำหน่ายข้าวเปลือกได้ตันละ 30,000 บาท โดยกลุ่มสินค้าข้าวที่ขายดีที่สุดและสร้างรายได้ให้กับชุมชนคือข้าวไร่ดอกข่าชนิดบรรจุถุง