กรมวิชาการเกษตร เปิดตัวเห็ดฟางพันธุ์ใหม่ “กวก. สทช.1” เผยลักษณะเด่นให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 3,450.93 กรัม/ตารางเมตร เมื่อใช้ทะลายเปล่าปาล์มน้ำมันเป็นวัสดุเพาะ สูงกว่าเห็ดฟางสายพันธุ์เดิม 500 % มีดอกตูม ทรงน้ำเต้า ตรงเกณฑ์มาตรฐานสินค้าเกษตรเห็ดฟาง สามารถเก็บผลผลิตได้นาน 2 – 3 สัปดาห์ต่อรอบการเพาะ
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เห็ดฟาง เป็นเห็ดที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยได้รับความนิยมเพาะบริโภคอย่างแพร่หลาย มีกำลังการผลิตสูงถึง 55 เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตเห็ดรวมที่ผลิตได้ในประเทศ โดยมีพื้นที่ภาคกลางเป็นแหล่งการผลิตหลักและมีตลาดกลางที่จำหน่ายผลผลิตเห็ดฟาง ได้แก่ ตลาดไทและตลาดสี่มุมเมือง ราคาจำหน่ายกิโลกรัมละ 100 – 150 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของดอกเห็ดฟางตามเกณฑ์มาตรฐานชั้นคุณภาพของเห็ดฟาง (มกษ. 1515-2558)
อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญในการผลิตเห็ดฟาง คือ เชื้อพันธุ์เห็ดฟางที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมักประสบปัญหาความอ่อนแอลง เนื่องจากความแปรปรวนทางพันธุกรรมจากและจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ซึ่งเชื้อพันธุ์เห็ดฟางถือเป็นปัจจัยข้อแรกที่ส่งผลอย่างมากต่อผลผลิตเห็ดฟางของเกษตรกร ส่งผลให้ผลผลิตเห็ดฟางลดลงอย่างต่อเนื่อง
ศูนย์รวบรวมเชื้อพันธุ์เห็ดแห่งประเทศไทย สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กรมวิชาการเกษตร จึงได้ดำเนินการรวบรวม เก็บอนุรักษ์เชื้อพันธุ์เห็ดฟางจากพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อดำเนินการเพาะทดสอบ คัดเลือกเห็ดฟางสายพันธุ์ใหม่ที่ให้ ผลผลิตสูงและมีลักษณะที่ดีตามความต้องการของตลาด จนได้เห็ดฟางพันธุ์ “กวก. สทช.1”
นางสาวจิตรา กิตติโมรากุล นักวิชาการโรคพืชชำนาญการ สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กล่าวว่า เห็ดฟางพันธุ์ กวก. สทช.1 เป็นเชื้อพันธุ์ที่รวบรวมได้จากโรงเรือนของเกษตรกรในพื้นที่ จ.นครนายก และดำเนินการเก็บอนุรักษ์เชื้อพันธุ์ในน้ำกลั่นนึ่งฆ่าเชื้อภายในศูนย์รวบรวมเชื้อพันธุ์เห็ดแห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2553 ต่อมาในปี พ.ศ. 2560 – 2561 ได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพการสร้างตุ่มดอกของเห็ดฟางที่เก็บอนุรักษ์ จำนวน 69 สายพันธุ์ พบว่ามีเห็ดฟาง 14 สายพันธุ์ที่สามารถสร้างตุ่มดอกเห็ดได้
เมื่อนำมาศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยา และการให้ผลผลิตของเชื้อพันธุ์เห็ดฟางในโรงเรือนของกรมวิชาการเกษตร สามารถคัดเลือกสายพันธุ์เห็ดฟางที่มีศักยภาพให้ผลผลิตสูง และมีลักษณะตรงตามความต้องการของตลาดได้ 4 สายพันธุ์จึงดำเนินการเพาะทดสอบผลผลิตของสายพันธุ์ที่คัดเลือกได้เปรียบเทียบกับเห็ดฟาง 2 สายพันธุ์เดิม โดยใช้ฟางข้าว ขี้ฝ้าย และทะลายเปล่าปาล์มน้ำมันเป็นวัสดุเพาะ พบว่า เห็ดฟางพันธุ์ กวก. สทช.1 เป็นสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงสุด ดอกมีลักษณะแบบฐานกว้าง รูปร่างค่อนข้างกลม เปลือกหุ้มดอกหนา
เห็ดฟางพันธุ์ กวก. สทช.1 ลักษณะเด่นให้น้ำหนักผลผลิตเฉลี่ย 2,285.16 กรัม/ตารางเมตร เมื่อใช้ฟางข้าวและขี้ฝ้ายเป็นวัสดุเพาะ สูงกว่าเห็ดฟาง 2 สายพันธุ์เดิม ซึ่งให้น้ำหนักผลผลิตเฉลี่ย 601.56 กรัม/ตารางเมตร คิดเป็น 300 เปอร์เซ็นต์ และให้น้ำหนักผลผลิตเฉลี่ย 3,450.93 กรัม/ตารางเมตร เมื่อใช้ทะลายเปล่าปาล์มน้ำมันเป็นวัสดุเพาะ สูงกว่าเห็ดฟาง 2 สายพันธุ์เดิม ซึ่งให้น้ำหนักผลผลิตเฉลี่ย 648.43 กรัม/ตารางเมตร คิดเป็น 500 เปอร์เซ็นต์
ลักษณะดอกตูมเป็นทรงน้ำเต้า ฐานกว้างขนาด 11 – 58 มิลลิเมตร ยาว 14 – 58 มิลลิเมตร ดอกสีน้ำตาลอ่อนถึงเทาอมดำอ่อน ขนาดและรูปร่างของดอกตรงตามเกณฑ์มาตรฐานสินค้าเกษตรของเห็ดฟาง (มกษ. 1515-2558) เริ่มเก็บผลผลิตได้หลังลดอุณหภูมิในโรงเรือนลงประมาณ 7 วัน และใน 1 รอบการผลิต มีระยะเวลาการเก็บผลผลิตได้นาน 2 – 3 สัปดาห์
“เห็ดฟางพันธุ์ กวก. สทช.1 ผ่านการรับรองเป็นพันธุ์แนะนำเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 สามารถเพาะได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์รวบรวมเชื้อพันธุ์เห็ดแห่งประเทศไทยมีแผนการผลิตและจำหน่ายเชื้อพันธุ์เห็ดฟาง กวก. สทช.1 ในรูปแบบแม่เชื้อบริสุทธิ์ได้ปีละ 500 ขวด เกษตรกรและผู้ที่สนใจสามารถขอรับบริการเชื้อพันธุ์เห็ดได้ที่กลุ่มวิจัยและพัฒนาเห็ด สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กรมวิชาการเกษตร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายแลขโทรศัพท์ 0-2579-0147 ในวันและเวลาราชการ” นางสาวจิตรา กล่าว