กรมวิชาการเกษตร คุมเข้มปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่ง หวังสร้างความมั่นใจเกษตรกรต้องได้ปุ๋ยคุณภาพ เล็งสุ่มตัวอย่าง ตรวจสอบคุณภาพจากโรงงานผู้ผลิตที่เข้าร่วมโครงการทุกรอบการผลิต เผยหากตรวจพบมีการผลิตสินค้าผิดมาตรฐาน หรือปลอม จะดำเนินการตามกฎหมายทันที

นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรในฐานะหน่วยงานที่ดำเนินการควบคุมคุณภาพปุ๋ยและชีวภัณฑ์ ดังนั้นโครงการปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่ง ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 ไม่เกินครัวเรือนละ 500 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 10,000 บาท ต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพื่อให้เกษตรกรได้รับมอบปุ๋ยและชีวภัณฑ์ที่มีคุณภาพตรงตามวัตถุประสงค์

                                                               รพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์

โดยสุ่มตัวอย่าง ตรวจสอบคุณภาพของปุ๋ยและชีวภัณฑ์ จากโรงงานผู้ผลิตที่เข้าร่วมโครงการทุกรอบการผลิต (lot) ตามสูตรที่กำหนดหากตรวจพบมีการผลิตสินค้าผิดมาตรฐาน หรือปลอม กรมวิชาการเกษตร จะดำเนินการตามกฎหมายโดยผลิตปุ๋ยเคมีผิดมาตรฐาน มีโทษจำคุก 2-5 ปี ปรับ 80,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผลิตปุ๋ยปลอม มีโทษจำคุก 5-15 ปี ปรับ 200,000-2,000,000 บาทผลิตปุ๋ยอินทรีย์ปลอม จำคุก 1 ปี 3 เดือน-3 ปี 9 เดือน ปรับ 50,000-500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผลิตชีวภัณฑ์ปลอม มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี 8 เดือน ปรับไม่เกิน 480,000 บาท หรือทั้งจำและปรับผลิตชีวภัณฑ์ผิดมาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี 3 เดือน ปรับไม่เกิน 330,000 บาท หรือทั้งจำและปรับดังนั้นจึงขอให้เกษตรกรมั่นใจว่า “โครงการปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่ง” เกษตรกรจะได้สินค้าที่มีคุณภาพใช้เพิ่มผลผลิตในนาข้าวอย่างแท้จริง” .

นอกจากเรื่องของการใช้ปุ๋ย การใช้ชีวภัณฑ์ก็มีความสำคัญเพราะชีวภัณฑ์จะช่วยให้เกิดการงอกที่ดีต้นไม้รากแข็งแรงดูดสารอาหารได้มากขึ้น ข้าวและพืชแข็งแรงและให้ผลผลิตมากขึ้นรวมถึงลดการใช้สารเคมีทำให้ลดค่าใช้จ่ายและเกษตรกรมีสุขภาพแข็งแรง สนับสนุนนโยบายลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร  สามารถนำไปใช้ผลิตพืชปลอดภัย สอดรับกับนโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร เกษตรต้องมีความปลอดภัย ยกระดับเพิ่มรายได้ 3 เท่า ใน 4 ปีอีกด้วย