รองนายกฯ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง ” เป็นประธานการประชุม กนช. ครั้งที่ 1/68 กำชับหน่วยงานป้องกันปัญหาภั ยแล้งเชิงรุก ลดความเสี่ยงประสบปั ญหาขาดแคลนน้ำ พร้อมเห็นชอบโครงการด้านทรั พยากรน้ำ ได้แก่ โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้ าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง แผนหลักการปรับปรุงแม่น้ำสาย และโครงการบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้ นที่ชุมชนเมืองพัทยา มุ่งแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่ส่ งผลกระทบเป็นวงกว้าง
วันที่ 6 ม.ค. 68 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิ จและสังคม เป็นประธานการประชุ มคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 1/2568 โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำ แห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
นายประเสริฐ กล่าวว่า ในวันนี้ได้ติดตามความก้าวหน้ าการเตรียมพร้อมรับมือกั บสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูแล้ง และได้มอบหมาย สทนช. บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้ องเร่งขับเคลื่อน 8 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2567/68 เพื่อเป็นการดำเนินการป้องกั นในเชิงรุกก่อนเกิดภัยแล้ง รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้ องและจังหวัด สร้างการรับรู้และความเข้าใจกั บประชาชนในการบริหารจัดการน้ำ อย่างมีส่วนร่วม เพื่อป้องกันความขัดแย้งในพื้ นที่และรณรงค์การใช้น้ำอย่ างประหยัด พร้อมมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ ยวข้องเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่ มีปริมาณน้ำใช้การน้อย โดยบริหารจัดการน้ำให้มีประสิ ทธิภาพ เพื่อให้มีน้ำใช้ได้อย่างเพี ยงพอตลอดฤดูแล้งและต่อเนื่ องจนถึงต้นฤดูฝน
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ (ร่าง) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่ อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้ งช่วง ปี 2568 จำนวน 19,970 รายการ โดยให้ สทนช. นำแผนปฏิบัติการภายใต้โครงการดั งกล่าว เสนอสำนักงบประมาณเพื่อพิ จารณาต่อไปนอกจากนี้ ยังได้พิจารณาแผนงานโครงการด้ านทรัพยากรน้ำต่าง ๆ ซึ่งผ่านการจัดลำดับความสำคั ญและกลั่นกรองตามระบบ ซึ่งบางโครงการมีความจำเป็นเร่ งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่ เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาและส่ งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยที่ประชุมมีมติเห็ นชอบโครงการตามที่หน่วยงานเสนอ ประกอบด้วย
1. โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้ าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง เป็นโครงการที่ใช้ในการบริหารจั ดการน้ำหลากและน้ำฝนในพื้นที่ เจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง โดยเริ่มตั้งแต่คลองระพีพัฒน์ จนถึงสถานีสูบน้ำและประตู ระบายน้ำต่าง ๆ บริเวณชายทะเลอ่าวไทย สามารถป้องกันและลดปัญหาพื้นที่ น้ำท่วมได้เฉลี่ย 298,250 ไร่ บริเวณพื้นที่ชุ มชนและเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ อีกทั้งยังเป็นแหล่งเก็บกักน้ำ ในช่วงฤดูแล้งได้อีก 17 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีด้วยโดยมอบหมายกรมชลประทานดำเนิ นการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเร่งรัดจัดทำแผนการจั ดการสิ่งรุกล้ำร่วมกับสถาบันพั ฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และกระทรวงมหาดไทย ที่อยู่ภายในเขตคลองให้สอดคล้ องกับแผนงานก่อสร้างทั้งโครงการ รวมถึงดำเนินโครงการให้แล้วเสร็ จตามแผนงานที่กำหนดอย่างเคร่ งครัด
2. แผนหลักการปรับปรุงแม่น้ำสายเพื่ อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย – โคลนแบบยั่งยืนบริเวณด่านการค้ าชายแดนแม่สาย พื้นที่ชุมชน พื้นที่เศรษฐกิจสำคั ญของเทศบาลตำบลแม่สาย และพื้นที่ต่อเนื่อง จังหวัดเชียงราย โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ศึกษาและบูรณาการแผนงานร่วมกั บหน่วยงานที่เกี่ยวข้ องในการดำเนินการจัดทำแผน โดยพิจารณาให้มีความเหมาะสมทั้ งด้านสังคม เศรษฐกิจ และวิศวกรรม
3. การขับเคลื่อนโครงการก่อสร้ างระบบระบายน้ำหลักเพื่ อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุ มชนเมืองพัทยา ระยะที่ 1 จังหวัดชลบุรี เมื่อดำเนินการแล้วเสร็ จจะสามารถรองรับการระบายน้ำในพื้ นที่พัทยาใต้ พัทยากลาง และถนนเทพประสิทธิ์ รวมประมาณ 15 ตารางกิโลเมตร (9,375 ไร่) ได้ประโยชน์ 37,300 ครัวเรือน โดยให้เมืองพัทยาพิจารณาเร่งรั ดดำเนินโครงการ และมอบกรมโยธาธิการและผังเมื องทบทวนการศึกษาแผนหลักการแก้ ไขปัญหาน้ำท่วมและการระบายน้ำฯ เมืองพัทยา รวมทั้งศึกษาและออกแบบรายละเอี ยดในแผนงานระยะเร่งด่วนให้ สอดคล้องแผนงานที่ได้ดำเนิ นการไว้แล้ว
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล
ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้เห็นชอบในหลั กการ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจั ดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ที่ผ่านการตรวจสอบกลั่ นกรองและมีความพร้อม จำนวน 53,969 รายการ ซึ่งรวมถึงโครงการป้องกันน้ำท่ วมภายในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ที่บรรจุเข้ามาเพิ่มเติมเนื่ องจากเป็นโครงการสำคัญที่ต้ องดำเนินการเร่งเด่วน โดยให้เทศบาลเมืองปัตตานี เสนอคณะกรรมการลุ่มน้ำพิ จารณาให้ความเห็นก่อนขอรั บการสนับสนุนงบประมาณ โดยได้มอบหมาย สทนช. นำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำดั งกล่าว เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิ จารณาในการจัดทำงบประมาณประจำปี ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ต่อไป
พร้อมกันนี้ ยังได้รับทราบแผนงานโครงการตาม (ร่าง) แผน 3 ปี ด้านทรัพยากรน้ำและโครงการสำคัญ จำนวน 17,381 รายการ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง อุทกภัย และน้ำอุปโภคบริโภค ตามนโยบายรัฐบาล โดยให้หน่วยงาน จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำแผนงานโครงการที่มีความพร้ อมไปดำเนินการตามแนวทางการจั ดทำแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ และเสนอขอรั บงบประมาณตามความเหมาะสม โดย สทนช. จะติดตามความก้าวหน้าและเร่งขั บเคลื่อนการดำเนินโครงการด้ านทรัพยากรน้ำในพื้นที่ทุกจั งหวัดอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ ไขปั ญหาในระยะยาวตามนโยบายของรองนาย กรัฐมนตรี
สำหรับการจัดทำผังน้ำ ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ปัจจุบันผังน้ำลุ่มน้ำชีและลุ่ มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก กนช. แล้ว อยู่ในระหว่างการจัดเตรี ยมเอกสารเสนอประกาศในราชกิจจานุ เบกษา และในวันนี้ที่ประชุมได้พิ จารณาเห็นชอบผังน้ำเพิ่มเติมเพื่ อประกาศในราชกิจจานุเบกษาอีก 3 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ลุ่มน้ำสะแกกรัง ลุ่มน้ำวังและลุ่มน้ำน่าน ในส่วนของลุ่มน้ำอื่น ๆ สทนช. จะเร่งดำเนินการตามขั้นตอนก่ อนเสนอ กนช. พิจารณาเพื่อใช้เป็นเครื่องมื อในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ในทุกลุ่มน้ำต่อไป