ตั้งอุตรดิตถ์เป็นศูนย์กลางคุมเข้มส่งออกทุเรียนภาคเหนือ แบบฉบัย “จันทบุรีโมเดล” ย้ำห้ามสวมสิทธิ์ผลไม้ทุกชนิด

  •  
  •  
  •  
  •  

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร สั่งขยายผล “จันทบุรีโมเดล” คุมเข้มทุเรียนภาคเหนือ ตั้งอุตรดิตถ์เป็นศูนย์กลาง  พร้อมมอบนโยบายผ่านการประชุมหารือมาตรการควบคุมมาตรฐานพืชส่งออกในพื้นที่ภาคเหนือ  ห้ามสวมสิทธิ์ผลไม้ส่งออกทุกชนิด  สั่งตรวจเข้มคุณภาพทุเรียนส่งออกต้องได้ทั้งคุณภาพและปลอดแมลงศัตรูพืช  เผยมูลค่าส่งออกเฉพาะทุเรียนภาคตะวันออกทะลุแสนล้าน  ดันไทยทะยานขึ้นสู่ทุเรียนพรีเมี่ยมที่ 1 ของโลก

       นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เป็นประธานการประชุมหารือมาตรการควบคุมมาตรฐานส่งออกในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง  พร้อมมอบนโยบายกำชับให้สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 พร้อมศูนย์เครือข่ายในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง  และสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ร่วมกันบูรณาการปฏิบัติงานรักษาคุณภาพมาตรฐานผลไม้ไทยตามนโยบาย premium Thai fruit โดยนำ “จันทบุรีโมเดล” ของสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 มาเป็นแนวทางการปฏิบัติงาน  พร้อมเน้นย้ำตรวจสอบผลไม้ทุกชนิดทั้งส่งออกและนำเข้าต้องได้คุณภาพและปลอดจากแมลงศัตรูพืช  รวมไปถึงตรวจสอบแหล่งที่มาของผลไม้ ห้ามมีการสวมสิทธิ์ผลไม้ทุกชนิดโดยเด็ดขาด

ขณะนี้กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการเตรียมการส่งออกทุเรียนภาคเหนือ โดยส่งไม้ต่อจากจันทบุรี ตามโครงการ ทุเรียนไทย ทุเรียนคุณภาพ มุ่งสู่ทุเรียนพรีเมี่ยมที่ 1 ของโลก โดยมีจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นศูนย์กลาง  สำหรับพื้นที่ปลูกทุเรียนภาคเหนือตอนล่างมีทั้งหมด 7 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร  พิจิตร  อุตรดิตถ์  ตาก  เพชรบูรณ์  สุโขทัยและพิษณุโลก โดยมีทั้งพันธุ์หมอนทอง พวงมณี  หลงลับแล  กระดุม มูซังคิง และหลินลับแล   มีพื้นที่ปลูกทุเรียนในเขตภาคเหนือตอนล่างได้รับการรับรอง GAP ทั้งหมด 9,492 ไร่  ปริมาณผลผลิตในปี 2566 รวมจำนวนประมาณ 10,717 ตัน โดยจังหวัดอุตรดิตถ์ให้ผลผลิตมากที่สุดจำนวน 6,616 ตัน ทุเรียนที่ส่งออกไปประเทศจีนเป็นพันธุ์หมอนทอง 90 เปอร์เซ็นต์

สำหรับด่านปลายทางที่ส่งออกทุเรียนของจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้แก่  ด่านเชียงของ  ด่านแหลมฉบัง ด่านลาดกระบัง ด่านนครพนม และด่านมุกดาหาร   โดยเมื่อวันที่ 5 -11 พฤษภาคม 2566  ได้ออกใบรับรองสุขอนามัยพืชสำหรับส่งออกทุเรียนสดไปแล้ว 318.6 ตัน มูลค่า 45.2 ล้านบาท โดยในปี 2565 (3 มิย.-5ต.ค.65) จังหวัดอุตรดิตถ์ได้ส่งออกทุเรียนไปจีนจำนวน 11,615 ตัน มูลค่า 1,207 ล้านบาท  ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2566  สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2  และเครือข่าย ร่วมกับ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร  และด่านตรวจพืชที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมหารือมาตรการควบคุมมาตรฐานพืชส่งออกในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง เพื่อนำไปหารือระดับจังหวัดร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องออกประกาศและคำสั่งต่างๆระดับจังหวัดในการดำเนินการเพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกันกับ สวพ.6 เป็นการเตรียมความพร้อมส่งออกทุเรียนภาคเหนือในปี 2566

“จากการดำเนินการควบคุมคุณภาพและตรวจรับรองสุขอนามัยพืชการส่งออกทุเรียนในฤดูกาลผลไม้ภาคตะวันออกในปี 2566 อย่างเข้มงวด  พร้อมกับได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ทำงานร่วมกับกรมวิชาการเกษตรอย่างใกล้ชิด เข้มข้น รักษาคุณภาพทุเรียนสำหรับส่งออกไปยังประเทศจีน ทำให้การส่งออกเป็นไปด้วยความราบรื่นในทุกเส้นทาง  พร้อมกับได้รับการชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบผลไม้ในภาคตะวันออก ซึ่งนำไปสู่ปริมาณการส่งออกที่มากถึง 6 แสนตัน มูลค่า ณ เวลานี้เกินแสนล้านไปแล้ว  จึงได้สั่งให้ขยายผล “จันทบุรีโมเดล”ไปสู่พื้นที่ภาคเหนือตอนล่างซึ่งกำลังมีผลผลิตทุเรียนออกสู่ท้องตลาดในขณะนี้  พร้อมสร้างการรับรู้การแยกสีโรงคัดบรรจุเป็นสีเขียว  เหลือง และแดง ให้ผู้ประกอบการในพื้นที่เข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ  เพื่อร่วมกันรักษาคุณภาพมาตรฐานทุเรียนไทย  มั่นใจว่าในการประชุมเตรียมความพร้อมของ สวพ.2 จะนำความสำเร็จเข้ามาสู่ในเขตพื้นที่ภาคเหนือเช่นเดียวกับที่ประสบความสำเร็จในภาคตะวันออก” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าว