มือใหม่จะปลูกอะโวคาโคต้องรู้ กูรูแนะ 2 แนวทางสู่ความสำเร็จ (มีคลิป)

  •  
  •  
  •  
  •  

ดลมนัส กาเจ

ท่ามกลางกระแสความนิยมการบริโภคผลอะโวคาโดในกลุ่มผู้รักสุขภาพกำลังขยายวงกว้างทวีคูณ ทำให้เกษตรกรหันมาปลูกอะโวคาโดเป็นทางเลือกใหม่เพิ่มขึ้นตามด้วย ทั้งที่มีความตั้งใจ และศึกษามาอย่างดี ขณะเดียวกันก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ปลูกตามกระแสทั้งที่ศึกษามาเพียงผิวเผิน จึงเกิดความลังเลว่าจะปลูกสายพันธุ์อะไรดี

นับเป็นโอกาสดีที่ “กูรูอะโวคาโค” รู้จริงทำเองเป็นในฐานะนักวิชาการจากกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ทุ่มเทศึกษา พัฒนาและรวบรวมสายพันธุ์อะโวคาโดกว่า 50 สายพันธุ์ “ธนากร โปทิกำชัย” หรือ “อ.โหน่ง” ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเกษตรจังหวัดตาก (เกษตรที่สูงจังหวัดตาก) ที่ตำบลรวมไทยพัฒนา อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ได้แนะนำความรู้อย่างน่าสนใจ

ผอ.ธนากร บอกว่า สำหรับเกษตรกรมือใหม่ที่สนใจจะปลูกอะโวคาโด ต้องถามตัวเองว่า มีความพร้อมขนาดไหนทั้งในพื้นที่ และเงินทุน เลือกได้ 2 แนวทาง หากมีเงินไม่มากนักให้ปลูกพันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกด้วยเมล็ด ให้สังเกตุเวลาออกผลผลิตมีต้นไหนบ้างที่กลายพันธุ์มาดีนำมาขยายต่อ หากต้นไหนไม่ดีอายุ 4 ปีตัดทิ้ง ให้งอกกิ่งใหม่ขึ้นมา แล้วเสียบยอดันพันธุ์การค้า ก็จะได้ต้นพันธุ์ที่ดี แข็งแรง หาอาหารเก่ง ข้อดีอีกอย่างคือหากปลูกแล้วตายเสียหายไม่มากนักเนื่องจากเป็นต้นปลูกจากเมล็ด

อีกแนวทางหนึ่งถ้ามีความพร้อม ก็สามารถปลูกกิ่งพันธุ์การค้าที่กำลังนิยมของผู้บริโภคได้เลย แต่ลงทุนสูง ได้ผลดีดีตามสายพันธุ์ที่ปลูก ซึ่งปัจจุบันนี้สายพันธุ์การค้าที่ปลูกได้ดีในประเทศไทยมีทั้ง  ลูเฮิร์น, ปิเตอร์สัน ,บัคคาเนีย,พิงค์เคอตัน,แฮส บูธ 7 และบูธ 8 เป็นต้น แต่มีข้อเสียคือหากปลูกแล้วตายจะเสียหายมากกว่า เพราะราคาซื้อต้นพันธุ์ที่แพงกว่าหลายเท่าตัวนั่นเอง (ติดตามรายละเอียดในคลิป)