กรมวิชาการเกษตร ดัน 4 กิจกรรมหลักพัฒนาคุณภาพทุเรียนฤดูการผลิตปี 2566 รับมือคู่แข่งที่สำคัญหลังจากที่จีนอนุญาตินำเข้าทุเรียนจากเวียดนามอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา ชี้ถึงเวลาที่ผู้ประกอบการ เกษตรกร ต้องเร่ งปรับตัวเพื่อรับสภาพการแข่งขั นของตลาดจีนที่จะมีผู้ เล่นมากขึ้นในอนาคต
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2565 ไทยส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจี น มูลค่าเกือบแสนล้านบาท โดยมูลค่ารวมของการส่งออกผลไม้ ทั้งหมดแสนล้านบาท สร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นอย่ างมาก แต่หลังจาก วันที่ 6 กันยายน 2565 จีนอนุญาตให้เวียดนามส่งออกทุ เรียนไปยังจีนได้ ผู้ประกอบการและเกษตรกรควรเร่ งปรับตัวเพื่อรับสภาพการแข่งขั นของตลาดทุเรียนจีนที่จะมีผู้ เล่นมากขึ้นในอนาคต การแข่งขันในการส่งออกทุเรี ยนไปยังตลาดต่างประเทศ ประเด็นที่สำคัญที่ต้องคำนึงถึ งคือ คุณภาพของทุเรียน ซึ่งทุเรียนที่มีคุณภาพดีย่ อมเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค กรมวิชาการเกษตร มีคำแนะนำให้เกษตรกรรักษาคุ ณภาพในการผลิตทุเรียนคุ ณภาพในฤดูกาลถัดไป 4 กิจกรรมใหญ่ๆ ที่จะบำรุงรักษาต้นทุเรียนให้ ได้ผลผลิตที่ดี ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ภายหลังการเก็บเกี่ยวทุเรียนดั งนี้
การเตรียมต้นให้พร้อมสำหรั บการออกดอก (ก.ค-ต.ค) แนะนำให้ มีการตัดแต่งกิ่งเพื่อควบคุ มทรงพุ่มและตัดกิ่งแห้งหรือเป็ นโรคออก เพื่อทำให้ทรงพุ่มโปร่ง ใส่ปุ๋ยเพื่อเพิ่มความอุดมสมบู รณ์ของดิน และให้แตกใบอ่อนอย่างน้อย 1 ชุด ควรมีการให้น้ำต้นทุเรียนเมื่ อฝนทิ้งช่วงเกิน 7 วัน การป้องกันโรคและแมลงที่สำคัญ ได้แก่ โรคใบไหม้ โรคใบติด โรครากเน่าโคนเน่า เพลี้ยชนิดต่างๆ ไรแดง และหนอนเจาะลำต้นทุเรียน
การจัดการเพื่อให้ทุเรี ยนออกดอกและติดผลดี (พ.ย-ธ.ค) แนะนำให้เกษตรกรใส่ปุ๋ยเคมี ทางดิน ก่อนสิ้นฤดูฝนประมาณ 1 เดือน งดการให้น้ำต่อเนื่องไม่น้อยกว่ า 10 วัน ทำให้ต้นทุเรียนเกิดสภาพเครียด เพื่อชักนำการออกดอก ควรมีการป้องกันโรคและแมลงที่ สำคัญ เช่น โรคดอกเน่า เพลี้ยไฟและไรแดง ในช่วงก่อนดอกบาน 1 สัปดาห์ ให้น้ำเพียง 1 ใน 3 ของการให้น้ำปกติ เพื่อช่วยให้มีการติดผลดีขึ้น การจัดการเพื่อเพิ่มปริมาณคุ ณภาพและผลผลิต (ม.ค-เม.ษ) เกษตรกรควรตัดแต่งผลอ่อน ที่มีรูปทรงบิดเบี้ยว ผลเล็ก และหนามแดงออก จำนวน 1-3 ครั้ง ตั้งแต่ผลอายุ 4-8 สัปดาห์ และ ให้ปุ๋ยหลังการตัดแต่งผลครั้งสุ ดท้าย เพื่อส่งเสริมการเจริญเติ บโตของผล และคุณภาพเนื้อ หลังจากนั้นให้น้ำอัตราปกติหลั งการติดผล 3 สัปดาห์ และลดการให้น้ำก่อนการเก็บเกี่ ยวผลผลิต 2 สัปดาห์ ควบคุมการแตกใบอ่อนระหว่างการพั ฒนาการของผล โดยพ่นปุ๋ยโปแตสเซียมไนเตรท (13-0-45) อัตรา 150-300 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ที่ใบอ่อนและระยะหางปลา ควบคุมการป้องกันกำจั ดโรคและแมลงที่สำคัญได้แก่ โรคผลเน่า เพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย หนอนเจาะผล และหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน
การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลั งการเก็บเกี่ยวในสวน (พ.ค-มิ.ย) ดัชนีการเก็บเกี่ยวที่ เหมาะสมมีหลายวิธีการ ตั้งแต่การนับอายุผล โดยกระดุมทอง ไม่น้อยกว่า 80 วันหลังดอกบาน ชะนี ไม่น้อยกว่า 100 วันหลังดอกบาน หมอนทอง ไม่น้อยกว่า 110 วันหลังดอกบาน นอกจากนั้นยังสามารถสังเกตก้ านผล จะแข็งและมีสีเข้มขึ้น เมื่อลูบจะสากมือ สังเกตรอยแตกระหว่างพู เป็นรอยแผลสีน้ำตาลเห็นได้วั ดเจน การชิมปลิง เมื่อตัดขั้วผล จะมีน้ำใสรสชาติหวาน การเคาะเปลือกหรือกรีดหนาม จะมีเสียงดังหลวมๆ ของช่องว่างภายในผล ข้อสำคัญ ห้ามวางทุเรียนบนพื้นดิ นในสวนโดยตรง เพื่อป้องกันการติดเชื้ อโรคผลเน่า
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวอีกว่า คำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตต่