คุ้มครองสิทธิ์เพิ่ม 7 ชนิดพืชพันธุ์ใหม่ครบ 100 พอดี เจ้าของผลิต-ขายได้เพียงผู้เดียว 

  •  
  •  
  •  
  •  
กรมวิชาการเกษตรแจ้ง 7 ชนิดพืชพันธุ์ใหม่ “พืชสกุลแคนนาบิส-ถั่วลิสง-กะเพรา-บัวบก  -โกโก้- กล้วยไม้สกุลซิมบิเดียมและลูกผสม-หอมแดง” ได้รับความคุ้มครองแล้ว  หลังคณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืช มีมติความเห็นชอบ ระบุเข้าหลักเกณฑ์ให้นักปรับปรุงพันธุ์จดทะเบียนเป็นเจ้าของพันธุ์พืชใหม่ผลิตขายได้แต่เพียงผู้เดียว  ล่าสุดยอดรวมชนิดพืชตามประกาศขอรับความคุ้มครองได้ถึง 100 ชนิดแล้ว  ยูคาลิปตัสขึ้นแท่นแชมป์แห่จดทะเบียนขอรับความคุ้มครองสิทธิ์มากสุด

     นางสาวอิงอร ปัญญากิจ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า ในปี 2564 นี้มีผู้แจ้งความประสงค์ ขอให้กระทรวงเกษตรฯประกาศกำหนดชนิดพืชที่พันธุ์พืชใหม่สามารถขอรับความคุ้มครองได้เพิ่มเติมจำนวน 7 ชนิดพืช ได้แก่  พืชสกุลแคนนาบิส ถั่วลิสง  กะเพรา  บัวบก  โกโก้  กล้วยไม้สกุลซิมบิเดียมและลูกผสม และหอมแดง  กรมวิชาการเกษตรในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืช จึงนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ และคณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืช  เพื่อมีมติเห็นชอบเสนอพืชจำนวน 7 ชนิดพืชดังกล่าวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เป็นชนิดพืชที่พันธุ์พืชใหม่สามารถขอรับความคุ้มครองได้


การพิจารณาชนิดพืชเพื่อออกประกาศเป็นพันธุ์พืชใหม่ ที่สามารถนำมาขอรับความคุ้มครองได้ จะพิจารณาเลือกจาก 3 ประเด็น คือ พืชที่มีความสำคัญและโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจ  พืชที่มีนักปรับปรุงพันธุ์พืชของไทยทำการปรับปรุงพันธุ์   และพืชที่มีพันธุ์พืชพื้นเมืองให้เกษตรกรเลือกใช้  ซึ่งขณะนี้พืชทั้ง 7 ชนิดดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืชและประกาศลงราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้แล้วส่งผลให้นักปรับปรุงพันธุ์พืชทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หรือนักปรับปรุงพันธุ์พืชอิสระ สามารถนำพันธุ์ใหม่ที่ปรับปรุงพันธุ์ได้ทั้ง 7 ชนิดมายื่นขอรับความคุ้มครองตามกฎหมายได้  ทำให้ปัจจุบันมีชนิดพืชที่สามารถนำมาขอจดทะเบียนรับความคุ้มครองเป็นพันธุ์พืชใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิมซึ่งมีจำนวน 93 ชนิดรวมเป็น 100 ชนิดแล้ว

นางสาวอิงอร กล่าวอีกว่า  การนำพันธุ์พืชใหม่ตามชนิดที่ระบุไว้ในประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มายื่นจดทะเบียนขอรับความคุ้มครอง จะทำให้เจ้าของพันธุ์พืชใหม่มีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการผลิตขายหรือจำหน่าย นำเข้ามาในราชอาณาจักร ส่งออกนอกราชอาณาจักร  แต่มีข้อยกเว้นสามารถใช้ได้ในกรณีเพื่อการศึกษา  ค้นคว้าทดลอง  วิจัยเพื่อปรับปรุงพันธุ์ เพาะปลูกหรือขยายพันธุ์โดยเกษตรกร ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นส่วนขยายพันธุ์หรือเพื่อการค้า  และถูกนำออกจำหน่ายด้วยความยินยอมของเจ้าของพันธุ์  ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 ที่ต้องการส่งเสริม กระตุ้น สร้างแรงจูงใจให้เกิดการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่ ด้วยการให้สิทธิคุ้มครองตามกฎหมายแก่นักปรับปรุงพันธุ์พืช

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมามีพืชตามประกาศกระทรวงเกษตรฯ ที่นักปรับปรุงพันธุ์ สถาบันการศึกษา เอกชน  มูลนิธิ  องค์กร และหน่วยงานภาครัฐได้ยื่นจดทะเบียนขอรับความคุ้มครองรวมจำนวนทั้งสิ้น 44 ชนิดพืช  รวม 1,732 คำขอ โดยชนิดพืชที่ขอยื่นจดทะเบียนรับความคุ้มครองมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ ยูคาลิปตัส   ข้าวโพด  แตงกวา/แตงร้าน  พริก   ข้าว  กล้วยไม้สกุลหวาย  มะเขือเทศ  ไม้ดอกสกุลขมิ้น  แตงโม  และบัว  นักปรับปรุงพันธุ์พืชที่ต้องการจดทะเบียนพันธุ์พืชเพื่อขอรับความคุ้มครองเป็นพันธุ์พืชใหม่   สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มวิจัยการคุ้มครองพันธุ์พืช  สำนักคุ้มครองพันธุ์พืช  โทรศัพท์  0 2940 7214