กระทรวงพลังงาน ฮึ่ม!! ขีดเส้นให้ชาวบ้านคืนพื้นที่บนเกาะในอ่างเก็บน้ำคีรีธารภายใน 30 วัน

  •  
  •  
  •  
  •  

ประธาน กมธ. ทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม วุฒิสภา ชี้ชัดกรณีการบุกรุกป่าเพื่อทำสวนทุเรียนในพื้นที่เกาะกลางน้ำกว่า 260 ไร่ บริเวณอ่างเก็บน้ำคีรีธาร อ.ขลุง จ.จันทบุรี อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพลังงาน ระบุสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ไม่มีสิทธิ์ออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่กลางเกาะ พน.ฮึ่มขีดเส้นให้ชาวบ้านคืนพื้นที่ภายใน 30 วัน

วันที่ 4 มีนาคม 2568 นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานกรรมมาธิการ (กมธ.) ทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาศึกษากรณีการบุกรุกป่าเพื่อทำสวนทุเรียนในพื้นที่เกาะกลางน้ำ จำนวน 260 ไร่ บริเวณอ่างเก็บน้ำคีรีธาร อ.ขลุง จ.จันทบุรี ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพลังงานโดยเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายนันทนิษฎ์ วงศ์วัฒนา รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และนายปรีชา ลิ้มถวิล รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เข้าชี้แจง


นายชีวะภาพ กล่าวว่า การประกาศพื้นที่ทำกินของ ส.ป.ก.ทับซ้อนกับพื้นที่ของกรมป่าไม้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชาชนเข้าไปบุกรุกทำสวนทุเรียน บริเวณเกาะกลางน้ำและริมเขื่อนคีรีธาร ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่าพื้นที่เดิมเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ จากนั้นกรมป่าไม้ได้มอบพื้นที่ให้สร้างเขื่อนคีรีธาร จำนวน 6,000 ไร่ แต่พบว่าเมื่อปี 2541 สำนักงานปฏิรูปที่ดินได้ประกาศพื้นที่ทำกินให้กับชาวบ้าน ทับซ้อนในพื้นที่อ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นความคลาดเคลื่อนของพื้นที่

ทางคณะกรรมาธิการฯจึงได้แนะนำทั้ง 2 หน่วยงานที่มาชี้แจงในวันนี้ว่าในเรื่องการซ้อนทับของพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่น้ำ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์สปก 4-01 ได้ จึงต้องให้เพิกถอนออกไป เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ใช้เพื่อผลิตพลังงาน โดยเฉพาะพื้นที่บนเกาะกลางน้ำ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์สปก 4-01 ได้ ซึ่งพื้นที่จะซ้อนทับกันดังกล่าว กรมป่าไม้และ สำนักงาน ส.ป.ก.ก็ต้องแก้ไขเรื่องการทับซ้อนให้ได้ข้อยุติ โดยกระทรวงพลังงานได้ขีดเส้นให้ชาวบ้านคืนพื้นที่ภายใน 30 วัน เนื่องจากพบหลักฐานว่ามีการบุกรุกเข้ามาทำกินในภายหลัง ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่

ส่วนบริเวณขอบอ่างด้านบนของเขื่อนคีรีธาร ที่มีชาวบ้านเข้ามาทำกินอยู่แล้ว จะต้องไม่ให้เกิดผลกระทบ ตรงไหนที่สามารถจัดสรรให้ประชาชนทำกินได้หรือหากทำกินกันอยู่แล้ว ก็ต้องให้ทำกินกันต่อไป โดยมีการออกเอกสารสิทธิ์ให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย.