.
ฉลองครบรอบ 49 ปีกรมวิชาการเกษตร “มนัญญา” ประกาศ คืนกำไรให้สังคม จัดทัพรถจักรยายนต์-รถยนต์ ปล่อยขบวนกระจายไปแจกต้นฟ้าทะลายโจร 4,949 ต้น ส่งตรงถึงหน้าบ้านประชาชนและ 3 ชุมชนเขตบางบัว ปู่เจ้าสมิงพรายและสะพานปูน วัดดอนเมือง ขณะที่โครงการผลิตต้นกลาให้ 21 สหกรณืยังดำเนินต่อไปจนครบ 770,000 ต้น เพื่อปลูกในพื้นที่ 98 ไร่ทั่วประเทศ
banner id=”21835″]
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมส่งมอบต้นฟ้าทะลายโจรถึงบ้านและชุมชน ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมวิชาการเกษตร ครบรอบปีที่ 49 ว่า ในปี 2564 ได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรเดินหน้าขับเคลื่อนการปลูกต้นฟ้าทะลายโจร โดยผลิตเมล็ดพันธุ์และต้นกล้าฟ้าทะลายโจร สนับสนุนให้สถาบันเกษตรกรในสหกรณ์ต่างๆ ทั่วประเทศของกรมส่งเสริมสหกรณ์ในการจัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจรเพื่อป้อนเป็นวัตถุดิบให้กับกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์แผนไทย เพื่อพัฒนาและผลิตเป็นยาต้านไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการผลิตเมล็ดพันธุ์และต้นกล้าฟ้าทะลายโจรทั้งพันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกเป็นการค้าทั่วไปและพันธุ์ที่กรมวิชาการเกษตรพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ โดยมีเป้าหมายส่งมอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจร จำนวน 770,000 ต้นให้สหกรณ์จำนวน 21 สหกรณ์ ซึ่งสามารถรองรับการปลูกฟ้าทะลายโจรในปี 2564 ในพื้นที่ 98 ไร่
.
นอกจากนี้ จากกระแสความต้องการต้นฟ้าทะลายโจรของประชาชนที่สนใจจำนวนมาก จึงได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรจัดเตรียมต้นฟ้าทะลายโจรเพื่อรองรับความต้องการของประชาชนทั่วไปที่สนใจให้ได้มากที่สุด ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้ขยายพันธุ์ต้นฟ้าทะลายโจร จำนวน 100,000 ต้น และเปิดโอกาสให้ผู้สนใจทั่วไปได้ลงทะเบียนจองต้นฟ้าทะลายโจรได้ฟรีจำนวนรายละไม่เกิน 5 ต้นผ่านเว็บไซต์กรมวิชาการเกษตรในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้สนใจเข้ามาลงทะเบียนขอรับต้นฟ้าทะลายโจรจำนวนมากทำให้ยอดเปิดจองเต็มภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว
.
เนื่องจากในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมวิชาการเกษตรครบรอบ 49 ปี เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการบริการให้กับประชาชน กรมวิชาการเกษตรจึงใช้โอกาสนี้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมโดยจัดคาราวานไรเดอร์จำนวน 49 คันและรถยนต์ 6 คัน ส่งมอบต้นฟ้าทะลายโจรจำนวน 4,949 ต้นส่งถึงบ้านประชาชนและ 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบางบัว ชุมชนปู่เจ้าสมิงพรายและสะพานปูน และ ชุมชนวัดดอนเมืองด้านเหนือ เขตดอนเมือง ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการขยายตัวของวงการพืชสมุนไพรไทยที่มีคุณค่าไปสู่การใช้ประโยชน์ที่หลากหลายมากขึ้น