สุโขทัยอ่วม พื้นที่การเกษตรยับเยินกว่า 2 แสนไร่ใน 9 อำเภอ คาดจะเสียหายอีก 150,774 ไร่

  •  
  •  
  •  
  •  

พิษพายุฝนถล่มภาคเหนือ ทำให้พื้นที่การเกษตรในจังหวัดสุโขทัยอ่วม พบความเสียหายแล้ว 213,661 ไร่ คาดว่าจะได้รับผลกระทบอีก 179,297 ไร่ในพื้นที่ 9 อำเภอ เป็นนาข้าวข้าว 186,968 ไร่ คาดว่าจะได้รับผลกระทบอีก 150,774 ไร่ ล่าสุดรองอธิบดรกรมการช้าว นำทีมลงพื้นที่หาทางช่วยเหลือชาวนาด่วน เบื้องต้นเตรียมเมล็ดพันธุ์ก่อน ให้รายละไม่เกิน 10 ไร่

    วันที่ 25 กันยายน 2564 นายณัฎฐกิตติ์ ของทิพย์ รองอธิบดีกรมการข้าวพร้อมด้วยนายเสกสรร รื่นภาคเพ็ชร ผู้อำนวยการกองเมล็ดพันธุ์ข้าว นายพนม แผลงฤทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุโขทัยและนายสุนทร โนราช ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพิษณุโลกลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัยเพื่อประชุมเตรียมการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดสุโขทัย

ณัฎฐกิตติ์ ของทิพย์ 

     นายณัฎฐกิตติ์ เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความเป็นห่วงพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจังหวัดสุโขทัย จึงได้มอบหมายให้กรมการข้าวเข้าไปดูแลพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้

                                                     

   ทั้งนี้เนื่องจากว่า หวัดสุโขทัยนั้น ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ร่องมรสุมพัดผ่านภาคเหนือตอนล่างทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากรวมทั้งน้ำที่ไหลมาจากอ่างเก็บน้ำแม่มอกและคลองแม่รำพัน ส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2564 ในพื้นที่ 9 อำเภอได้แก่ อำเภอศรีสำโรง  สวรรคโลก   ศรีนครคีรีมาศบ้านด่าน   ลานหอย  เมืองสุโขทัย   ทุ่งเสลี่ยมกงไกรลาศ และอำเภอศรีสัชนาลัย พบว่ามีเกษตรกรที่ประสบภัยจำนวน 14,464 ครัวเรือนพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายจำนวน 213,661 ไร่และคาดว่าจะได้รับผลกระทบอีก 179,297 ไร่

      ในจำนวนี้พบว่ามีพื้นที่ปลูกข้าวที่ประสบภัยจำนวน 186,968 ไร่ และคาดว่าจะได้รับผลกระทบอีก 150,774 ไร่ (ข้อมูลณวันที่ 23 กันยา​ยน 2564)  ทางกรมการข้าวได้เตรียมการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ด้วยการให้การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ประสบภัยพิบัติจนทำให้ต้นข้าวที่ปลูกไว้เสียหายสิ้นเชิงหรือเสียหายมากกว่าร้อยละ 80 และจังหวัดประกาศเป็นเขตประสบภัยพิบัติในกรณีฉุกเฉินแล้ว

     นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ห่างไกลความเจริญและขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อการเพาะปลูกเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีการจัดทำแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้ปลูกในฤดูต่อไปหรือกระจายให้เกษตรกรอื่นในชุมชนใช้เพาะปลูก

     ส่วนคุณสมบัติของเกษตรกรผู้จะได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว ต้องเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติจนขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้ปลูกในฤดูเดียวกัน และมีความประสงค์จะขอรับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่จะเพาะปลูกในฤดูเดียวกัน  หรือเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ห่างไกลความเจริญและขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อการเพาะปลูกเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีการจัดทำแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้ปลูกในฤดูต่อไป หรือกระจายให้เกษตรกรอื่นในชุมชนใช้เพาะปลูก 

     “กรมการข้าวจะให้การช่วยเหลือสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่ผู้ประสบอุทกภัย รายละไม่เกิน 10ไร่ๆละ 7 กิโลกรัม (นาดำ) และไร่ละ 15 กิโลกรัม (นาหว่าน) ซึ่งปริมาณการสนับสนุนบรรเทาฟื้นฟูขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการเกิดภัยพิบัติในแต่ละครั้ง หรือสภาพการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวในพื้นที่ โดยให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการสำรองเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อความมั่นคงแห่งชาติทั้งนี้กรมการข้าวขอสงวนสิทธิ์ในการจัดสรรการช่วยเหลือตามปริมาณ/ชนิดเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามกิจกรรม” รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าว