กรมข้าวฯจับมือ 112 โรงสีอีสาน หนุนชาวนาใช้เมล็ดพันธุ์ดี รับซื้อคืนสูงกว่าท้องตลาดตันละร้อย

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมการข้าวจับมือ 112 โรงสีในภาคอีสาน 10 จังหวัด ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เมล็ดพันธุ์ดีมีคุณภาพที่ผลิตโดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวหรือศูนย์ข้าวชุมชน การันตีจะซื้อข้าวเปลือก 3 สายพันธุ์ ” ขาวดอกมะลิ 105 – กข15 -ข้าวเหนียว กข6 ” ในราคาที่แพงกว่าท้องตลาดทั่วไปตันละ 100 บาท ในฤดูทำนาปี 2564/65 นี้

      นายอาชว์ ชัยชาญ กล่าวว่า เมล็ดพันธุ์นั้นมีความสำคัญต่อคุณภาพข้าวไทย เพราะถือเป็นต้นทางให้กับชาวนาในการนำไปเพาะปลูก เพื่อสร้างผลผลิตในทุกๆฤดู เพราะหากชาวนาได้ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี มีมาตรฐาน จะส่งผลให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพดีตามไปด้วยเช่นกัน แต่หากมีการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ไม่มีคุณภาพ เช่น เมล็ดพันธุ์ไม่บริสุทธิ์ มีพันธุ์อื่นปน ก็จะส่งผลให้ผลผลิตที่ได้ไม่มีคุณภาพ

      ดังนั้นการส่งเสริมการผลิตการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดีจึงถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการยกระดับและแก้ปัญหาคุณภาพข้าว ทั้งข้าวหอมมะลิไทยและข้าวเหนียว กข6 ที่มักพบเมล็ดพันธุ์อื่นปนเพิ่มมากขึ้น กรมการข้าวจึงได้ร่วมมือกับสมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และศูนย์ข้าวชุมชนที่เข้าร่วมโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวระหว่างผู้ใช้เมล็ดพันธุ์คุณภาพดี กับผู้ประกอบการโรงสีในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฤดูนาปี 2564/65

      ทั้งนี้จะช่วยในการส่งเสริมให้ชาวนาหันมาใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ได้คุณภาพ ที่ผลิตโดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวหรือศูนย์ข้าวชุมชน โดยจะรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกจากชาวนาที่มีหลักฐานในการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวจากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวหรือศูนย์ข้าวชุมชนในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ชาวนาปรับเปลี่ยนการใช้เมล็ดพันธุ์ และสามารถผลิตข้าวที่ดีมีคุณภาพได้

                              (จากขวา)  อาชว์ ชัยชาญ – ณัฎฐกิตติ์ ของทิพย์

    ด้านนายณัฎฐกิตติ์ ของทิพย์ รองอธิบดีกรมการข้าว  กล่าวว่า ตอนนี้มีโรงสีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 10 จังหวัดได้แก่สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น ยโสธรศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ นครราชสีมา มหาสารคาม และมุกดาหาร รวมแล้ว 112 โรงสี ที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมด้านเมล็ดพันธุ์ให้กับชาวนา

      สำหรับพันธุ์ข้าวที่จะนำมาส่งเสริมในโครงการนี้ ได้แก่ข้าวพันธุ์ ขาวดอกมะลิ 105  กข15 และข้าวเหนียว กข6 โดยโรงสีข้าวที่เข้าร่วมโครงการฯ จะดำเนินการตรวจสอบคุณภาพและรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกจากชาวนาในราคาที่สูงขึ้นตามคุณภาพ และเพิ่มราคารับซื้อจากปกติอีก 100 บาท/ตัน

      โดยทีชาวนาจะต้องนำหลักฐานการซื้อเมล็ดพันธุ์จากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวของกรมการข้าว หรือศูนย์ข้าวชุมชนที่ร่วมโครงการมาแสดง ซึ่งทางโรงสีจะคำนวณปริมาณการรับซื้อผลผลิตจากปริมาณเมล็ดพันธุ์ที่ซื้อและผลผลิตเฉลี่ยในแต่ละท้องที่