“อนุทิน” ควง “มนัญญา” Kick Off ส่งเสริมอาชีพปลูกฟ้าทลายโจรสู้ภัยโควิดป้อน สธ.นำร่องที่อุทัยฯ

  •  
  •  
  •  
  •  

“อนุทิน” ควง “มนัญญา” ลงพื้นที่เปิด  Kick Off โครงการส่งเสริมอาชีพปลูกฟ้าทลายโจรสู้ภัยโควิด-19 ป้อนสาธารณสุขในนามสหกรณ์ ที่อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานีเป็นจุดนำร่อง ก่อนขยายพื้นที่อื่นอีก 1,000ไร่ ครอบคลุมทุกพื้นที่ในทุกภูมิภาค ขณะที่กรมวิชาการเปิดเว็บไซต์แจกฟรีพันธุ์ฟ้าทะลายโจรแล้ว 2 สายพันธุ์ “พิจิตร 4-4” และ “พิษณุโลก 5-4” เปิดจองจนถึง 31 สิงหาคม 2564 นี้ 

    วันที่ 7 สิงหาคม 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐม0นตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดงาน Kick Off โครงการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร (ฟ้าทะลายโจร) สู้ภัยโควิด-19 ของสมาชิกสหกรณ์ในจังหวัดอุทัยธานี ณ แปลงปลูกฟ้าทะลายโจร ของสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานีโดยมีนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรละสหกรณ์ และนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เข้าร่วมด้วย 

    นางสาวมนัญญา กล่าว่า การจัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร (ฟ้าทะลายโจร) สู้ภัยโควิด-19 ครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจร ให้เป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรจะเป็นโอกาสให้กับสหกรณ์ในการต่อยอด สร้างรายได้ให้กับสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และเป็นการรักษาเสถียรภาพด้านปริมาณ และราคาให้เกิดความสมดุล และเพิ่มการใช้พืชสมุนไพรไทยเป็นทางเลือกในการบำบัด ควบคุม และรักษาโรคเพิ่มขึ้น

    ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายขับเคลื่อนการปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เพื่อป้อนเป็นวัตถุดิบให้กับกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมแพทย์แผนไทยพัฒนาเป็นยาต้านไวรัสโควิด-19 และได้มอบให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ทำโครงการส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจรในสถาบันเกษตรกร ซึ่งกรมวิชาการเกษตร จะสนับสนุนพันธุ์ที่มีสารแอนโดรกราโฟไลค์สูงให้กับสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งผลที่ได้รับจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และอนาคตอาจจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ต่อไป

    ขณะนี้มีสหกรณ์ ใน 8 จังหวัดแจ้งความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว  ซึ่งจังหวัดอุทัยธานี เป็นจังหวัดนำร่อง พื้นที่รวม 10 ไร่ และวันนี้ได้จัดกิจกรรมเปิดตัวครั้งแรกที่สหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด อำเภอลานสัก จำนวน 4 ไร่ ส่วนในระยะต่อไป จะมีการขยายพื้นที่ปลูกฟ้าทะลายโจรในสถาบันเกษตรกร เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1,000 ไร่ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในทุกภูมิภาค

    ล่าสุดมีสถาบันเกษตรกรแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการแล้ว 52 สหกรณ์ใน 11 จังหวัด โดยจะมีการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ปลูกฟ้าทะลายโจรเพื่อแปรรูปป้อนเข้าสู่ตลาด โดยได้กำหนดวิธีการดำเนินงานตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ

     “เราคาดหวังว่าโครงการนี้จะเป็นการสร้างอาชีพหลักหรือเป็นพืชเสริมเพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับสมาชิกและเกษตรกร รวมทั้งสนับสนุนผลผลิตฟ้าทะลายโจรให้เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น เป็นการรักษาเสถียรภาพด้านปริมาณ และราคาให้เกิดความสมดุลและให้มีการใช้พืชสมุนไพรไทย เป็นทางเลือกในการบำบัด ควบคุม และรักษาโรคเพิ่มขึ้น” นางสาวมนัญญา กล่าว กล่าว

      ด้านนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการปลูกฟ้าทะลายโจร จะกระจายอยู่ทุกภาค ซึ่งหลังจากได้สหกรณ์ที่เข้าโครงการแล้ว กรมฯ จะชี้แจงแนวทางการปฏิบัติ และเน้นย้ำให้สหกรณ์ผลิตพืชสมุนไพรปลอดสารเคมี อย่างไรก็ตามกรณีสหกรณ์ที่เข้าโครงการต้องการเงินทุนเพื่อส่งเสริมอาชีพการปลูกฟ้าทะลายโจรให้กับสมาชิก กรมจะจัดเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ให้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 เพื่อใช้ในการตั้งต้นเข้าโครงการ

     “ทางกรมส่งเสริมสหกรณื คาดหวังว่าโครงการนี้จะเป็นช่องทางสร้างรายได้เสริมให้กับสมาชิกสหกรณ์ได้ดี เนื่องจากเป็นสมุนไพรคุณภาพ และคาดหวังว่าหากสหกรณ์สามารถผลิตได้คุณภาพ อนาคตหลายสหกรณ์จะเป็นแหล่งผลิตสมุนไพรปลอดสารได้อีกจำนวนมาก และจะสามารถเป็นทั้งแหล่งผลิตและแหล่งท่องเที่ยว ส่งผลต่อรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม” นายวิศิษฐ์ กล่าว

     ขณะที่นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรพร้อมจะสนับสนุนต้นกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจรให้กับสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการนี้ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้กรมวิชาการเกษตรได้เตรียมพันธุ์ ฟ้าทะลายโจรไว้ 2 พันธุ์ ได้แก่ พันธุ์พิจิตร 4-4 และพิษณุโลก 5-4 จำนวน 800,000 ต้น และจะมอบให้จังหวัดอุทัยธานี นำไปปลูกเป็นจังหวัดแรก จำนวน 24,000 ต้น

      ส่วนที่เหลือจะกระจายไปยังสหกรณ์เป้าหมาย อีก 9 จังหวัด เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับสมาชิก คาดว่าจะลงมือปลูกได้ช่วงปลายสิงหาคมนี้ครบทั้ง 10 สหกรณ์ใช้เวลาปลูกประมาณ 3 เดือน จะได้ผลผลิตฟ้าทะลายโจรแบบแห้ง เฉลี่ย 700 กก./ต่อไร่ คาดว่าผลผลิตรวมทั้งหมดที่สหกรณ์ผลิตได้ในปีนี้ ประมาณ 56,000 – 70,000 กก.

       นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรยังได้เตรียมทำแปลงขยายเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจร สำหรับแจกจ่ายให้กับประชาชนที่สนใจ เพื่อส่งเสริมการขยายพื้นที่เพาะปลูกฟ้าทะลายโจรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2565 แลถมีแผนที่จะเพาะเมล็ดพันธุ์อีกประมาณ 400 กิโลกรัม พร้อมสำหรับแจกจ่ายให้ผู้ที่ต้องการปลูกฟ้าทะลายโจร ซึ่งเมล็ดพันธุ์ 400 กิโลกรัมนี้ สามารถนำไปปลูกได้ในพื้นที่ 27,000 ไร่

     สำหรับเกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่ต้องการขอรับการสนับสนุนพันธุ์ฟ้าทะลายโจร กรมวิชาการเกษตรได้เตรียมต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจรไว้ 100,000 ต้น โดยในวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่เปิดตัวโครงการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร (ฟ้าทะลายโจร) สู้ภัยโควิด-19 ได้เปิดสั่งจองต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจรคนละ 5 ต้น โดยเปิดให้จองผ่านทางเว็บไซต์ www.doa.go.th ตั้งแต่วันที่ 7 – 31 สิงหาคม 2564 นี้ และจะแจกจ่ายต้นพันธุ์ฟ้าทะลายให้ผู้ที่สั่งจองได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2564 เป็นต้นไป และได้กำหนดจุดรับต้นพันธุ์กระจายไปตามจังหวัดต่าง ๆ พร้อมนี้ยังได้จัดทำคู่มือการปลูกฟ้าทะลายโจร เพื่อให้ทุกคนสามารถ ดาวน์โหลดผ่านทางเว็บไซต์ www.doa.go.th ด้วยเช่นกัน