ทึ่ง!!แหนแดง สุดยอดปุ๋ยพืชสดให้ธาตุอาหารสูงใช้แทนปุ๋ยเคมีได้เลย

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมวิชาการเกษตร  หนุนเกษตรกรใช้แหนแดงแห้งทดแทนปุ๋ยเคมีในแปลงพืชผัก ทึ่งให้ธาตุไนโตรเจนสูง ชูเป็นพืชมหัศจรรย์ตอบโจทย์ด้านเกษตรครบวงจร  เข้าทางเกษตรอินทรีย์ 

     ดร.ศิริลักษณ์  แก้วสุรลิขิต  นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ  กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร  กรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า แหนแดงเป็นเฟิร์นชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาใช้เป็นปุ๋ยพืชสดในการผลิตพืช   เนื่องจากใบของแหนแดงมีโพรงใบซึ่งมีสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินชนิดที่ตรึงไนโตรเจนอาศัยอยู่ เมื่อนำมาวิเคราะห์ธาตุอาหารพบว่ามีไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบสูงถึง 5 เปอร์เซ็นต์   แหนแดงจึงเปรียบเสมือนโรงงานผลิตปุ๋ยไนโตรเจนทางชีวภาพที่สามารถใช้ทดแทนหรือลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และยังช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดินด้วย

                                               ดร.ศิริลักษณ์  แก้วสุรลิขิต

     กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร  กรมวิชาการเกษตรได้ปรับปรุงพันธุ์แหนแดงสายพันธุ์อะซอลล่า ไมโครฟินล่าซึ่งให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์พื้นเมืองถึง 10 เท่าและสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว  ภายในระยะเวลา 30 วันให้ผลผลิตแหนแดงสดถึง 3 ตัน/ไร่  และสามารถตรึงไนโตรเจนได้ถึง 5-10 กิโลกรัม/ไร่  โดยหลังจากแหนแดงย่อยสลายจะปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาให้พืชได้อย่างรวดเร็ว 

     อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาแหนแดงได้ถูกนำมาใช้ประโยน์เป็นปุ๋ยพืชสดเฉพาะในข้าวเพียงพืชเดียวเท่านั้น   นักวิจัยจึงมีแนวคิดที่จะต่อยอดนำแหนแดงไปใช้ประโยชน์กับพืชอื่นให้หลากหลายชนิดมากขึ้น   ประกอบกับมีกระแสส่งเสริมเพิ่มพื้นที่การทำเกษตรอินทรีย์แหนแดงจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญที่ตอบโจทย์การทำเกษตรอินทรีย์เพราะสามารถใช้ทดแทนปุ๋ยเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ  จึงได้เริ่มทดสอบนำแหนแดงสดไปตากแดดให้แห้งเพื่อนำไปใช้กับพืชผัก

     จากผลการทดลองนำแหนแดงแห้งไปใช้กับพืชผักกินใบเช่น คะน้า  กวางตุ้ง  และผักสลัด โดยนำมาคลุกกับดินหรือรองก้นหลุม 1 กำมือ โดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมี พบว่าให้ผลผลิตทั้งปริมาณและคุณภาพเป็นที่น่าพอใจ  จึงเหมาะสมอย่างมากสำหรับการผลิตพืชผักอินทรีย์  ที่สำคัญช่วยลดต้นทุนการผลิต  เนื่องจากเกษตรกรสามารถผลิตและขยายพันธุ์แหนแดงไว้ใช้ได้เองโดยมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำมาก

     ที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรได้สนับสนุนแม่พันธุ์แหนแดงและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงแหนแดงในบ่อแม่พันธุ์สำหรับให้เกษตรกรนำไปเพาะเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์เอง ซึ่งวิธีการเพาะเลี้ยงสามารถทำได้ง่ายโดยทำบ่อเพาะเลี้ยงแม่พันธุ์แหนแดง 2-3 บ่อ เพื่อให้เพียงพอต่อการนำไปขยายพันธุ์ต่อในบ่อขยายที่มีขนาดใหญ่ขึ้นโดยแหนแดงใช้ระยะเวลาขยายพันธุ์จนเต็มบ่อประมาณ 1-2 สัปดาห์  และจะเจริญเติบโตขยายตัวไปได้เรื่อยๆเกษตรกรจึงสามารถผลิตได้ตลอดไม่มีวันขาดแคลนรวมทั้งยังสามารถเก็บแหนแดงแห้งใส่กระสอบไว้ได้นานถึง 3 ปีโดยที่ธาตุอาหารยังอยู่ครบ

     “ที่ผ่านมาเราอาจจะเคยได้ยินแต่การนำแหนแดงสดไปใช้ประโยชน์ในนาข้าว   แต่ในวันนี้ได้มีการพัฒนาต่อยอดและส่งเสริมการนำแหนแดงแห้งไปใช้ประโยชน์ให้กับพื้นที่ปลูกพืชผักโดยเฉพาะพื้นที่ทำเกษตรอินทรีย์  และในพื้นที่แห้งแล้งโดยแหนแดงจะทำหน้าที่ดูดซับน้ำเอาไว้ให้พืช  เนื่องจากแหนแดงแห้งสามารถซับน้ำได้ 300 เท่าของน้ำหนักตัว ที่สำคัญเกษตรกรสามารถเพาะเลี้ยงแหนแดงได้เองด้วยวิธีการง่ายๆ ใช้ต้นทุนน้อยมากในการสร้างบ่อเพาะเลี้ยงแม่พันธุ์และบ่อขยายพันธุ์   เกษตรกรที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร  โทรศัพท์ 0-2 579-7523”