กรมชลฯวางแผนบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างเคร่งครัด ยันจะส่งน้ำทำนาปีจนถึงเก็บเกี่ยว

  •  
  •  
  •  
  •  

 

กรมชลประทาน วางแผนบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างเคร่งครัด เน้นเก็บกักน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค เผยสาเหตุที่ส่งน้ำให้เกษตรกรทำนาปีล่าช้าเกิดจากฝนตกลงมาต่ำค่าเฉลี่ย ยืนยันจะให้ความช่วยเหลือจนกว่าเกษตรกรจะเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเสร็จ เพื่อไม่ให้ผลผลิตเสียหายแน่นอน

      ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน  เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศว่า ปัจจุบัน(10 ธ.ค.63) มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกันประมาณ 48,088ล้าน ลบ.ม. หรือ 63% ของความจุอ่างฯ เป็นน้ำใช้การได้ประมาณ 24,159ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 12,368 ล้าน ลบ.ม. หรือ50% ของความจุอ่างฯ เป็นน้ำใช้การได้ประมาณ  5,672 ล้าน ลบ.ม.

   ด้านผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้ง 2563264  ปัจจุบัน (10ธ.ค.63) มีการใช้น้ำไปแล้ว 3,040ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 19ของแผนจัดสรรน้ำฯ เฉพาะในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการใช้น้ำไปแล้ว 707ล้าน ลบ.ม. หรือ18% ของแผนจัดสรรน้ำฯ

       สำหรับแผนการจัดสรรน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เนื่องจากในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมามีฝนตกในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ทำให้เกษตรกรบางส่วนปลูกข้าวนาปีได้ล่าช้า ซึ่งกรมชลประทาน จะให้ความช่วยเหลือจนกว่าเกษตรกรจะเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเสร็จ โดยไม่ให้ผลผลิตเสียหาย ตลอดจนประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์น้ำ รวมทั้งขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้หันไปปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนการทำนาปรัง เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ในเกณฑ์น้อยไม่สามารถสนับสนุนได้ อีกทั้งขอให้ทุกภาคส่วนร่วมใจกันรณรงค์ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย

      นอกจากนี้ กรมชลประทาน ได้ดำเนินการตามมติ ครม. เพื่อรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้งปี 63/64 ด้วยการเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ รวมไปถึงในแม่น้ำลำคลอง พร้อมทั้งจัดหาแหล่งสำรองน้ำดิบในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ การกำหนดแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้ง วางแผนเพาะปลูกฤดูแล้ง เฝ้าระวังคุณภาพน้ำ  สร้างการรับรู้สถานการณ์น้ำและแผนการจัดสรรน้ำให้ทุกภาคส่วนเกิดความร่วมมือในการใช้น้ำอย่างประหยัด พร้อมวางแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค โดยได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกันในการควบคุมคุณภาพน้ำตามลุ่มน้ำต่างๆ รวมทั้งพิจารณาปรับการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อให้มีน้ำใช้เพียงพอตลอดทั้งปี