ดร.ทองเปลว กองจันทร์
อธิบดีกรมชลประทาน ยืนยัน รมว.เกษตรฯ ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน” ไม่มีนโยบายที่จะให้เกษตรกรงดทำนาแต่อย่างใด เป็นเพียงความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ทั่วประเทศขณะนี้ใกล้จะสิ้นสุดฤดูฝนแล้ว แต่ปริมาณน้ำในอ่างฯ ก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อยเท่าน จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุด ระบุปัจจุบันน้ำต้นทุนน้อยกว่าปีก่อนถึง 11,882 ล้าน ลบ.ม.
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงกรณีที่ข่าวผ่านสื่อมวลชนที่ระบุถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน) ลั่นน้ำน้อย งดปลูกข้าว ว่า เป็นเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่งความจริงกระทรวงเกษตรฯ ไม่มีนโยบายที่จะให้เกษตรกรงดทำนาแต่อย่างใด เป็นเพียงความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ทั่วประเทศขณะนี้ใกล้จะสิ้นสุดฤดูฝนแล้ว แต่ปริมาณน้ำในอ่างฯ ก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อย จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุด
ทั้งนี้เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้าอย่างเพียงพอ ส่วนเกษตรกรที่เพาะปลูกแล้ว ขอให้ใช้น้ำท่าในแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นหลัก คาดว่าหากพายุ “โนอึล” เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย จะทำให้มีฝนตกมากขึ้น ส่งผลดีต่อปริมาณน้ำในอ่างฯเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
ดร.ทองเปลว กล่าวอีกว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ปัจจุบัน(17 ก.ย. 63) มีปริมาณรวมกันประมาณ 34,560 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 49 ของความจุอ่างฯรวมกันเป็นน้ำใช้การได้ 11,124 ล้านลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพลเขื่อนสิริกิติ์เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 10,185 ล้านลบ.มหรือร้อยละ 41 ของความจุอ่างฯมีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ 3,489 ล้านลบ.ม.
ด้านผลการจัดสรรน้ำฤดูฝนทั้งประเทศปัจจุบัน (17ก.ย. 63) มีการใช้น้ำไปแล้ว 10,436ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 87ของแผนฯเฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยามีการใช้น้ำไปแล้ว3,357ล้านลบ.ม. หรือเกินแผนไปแล้วร้อยละ3ภาพรวมสถานการณ์น้ำทั้งประเทศปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อย
จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ปีนี้(2563) น้อยกว่าปี 2562 ที่ผ่านมาถึง 11,882 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำรวมกันปีนี้น้อยกว่าปีที่แล้วประมาณ 1,671 ล้าน ลบ.ม. ในส่วนของพื้นที่ทำนาปีในเขตชลประทานทั่วประเทศ ปัจจุบันมีการเพาะปลูกไปแล้วประมาณ 13.34 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 77 ของแผนฯ (แผนวางไว้ 16.79 ล้านไร่) เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการทำนาปีไปแล้ว 5.66 ล้านไร่ หรือร้อยละ 69 ของแผนฯ(แผนวางไว้ 8.10 ล้านไร่)
ดังนั้นกรมชลประทานได้กำหนดแผนบริหารจัดการน้ำภายใต้ภาวะน้ำน้อยเน้นเก็บกักน้ำไว้ในอ่างเก็บน้ำต่างๆให้ได้มากที่สุด ส่งน้ำเฉพาะการอุปโภคบริโภคเป็นหลักพร้อมบริหารจัดการน้ำท่าในแหล่งน้ำธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุดรวมทั้งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรับทราบถึงสถานการณ์น้ำต้นทุนที่มีอยู่น้อยโดยขอให้ใช้น้ำฝนเป็นหลักในการเพาะปลูกหากพื้นที่ใดมีการเพาะปลูกไปแล้วให้ใช้น้ำท่าในแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่ของตนให้เกิดประโยชน์สูงสุดส่วนที่ยังไม่มีการเพาะปลูกให้พิจารณาปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทน ทั้งนี้ ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมใจกันรณรงค์ให้ใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุด เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้าอย่างไม่ขาดแคลน