ก.เกษตรฯโชว์สุดยอดแอปพลิเคชัน“รู้จริง พืช ดิน ปุ๋ย” หนึ่งเดียวในไทยแนะใช้ปุ๋ยตรงกับพืชที่แม่นยำสุด

  •  
  •  
  •  
  •  

                                                                     อนันต์  สุวรรณรัตน์  

กรมวิชาการเกษตร ผสานองค์ความรู้ กรมพัฒนาที่ดิน สร้างสุดยอดแอปพลิเคชัน“รู้จริง พืช ดิน ปุ๋ย” โชว์แอฟฯ เดียวในประเทศไทยให้คำแนะนำสูตรปุ๋ยและอัตราการใช้ที่เหมาะสมกับพืชและดินครบถ้วน  รู้ผลแบบเรียลไทม์  แม่นยำ  ใช้งานง่าย ไม่ต้องเสียเวลาเก็บตัวอย่างดินรอผลตรวจอีกต่อไป  มั่นใจแอฟฯ ผู้ช่วยตัวจริงลดต้นทุนใช้ปุ๋ยให้เกษตรกร พร้อมเปิดตัวแอปฯ ให้บริการแล้วกว่า 60 ชนิดพืชครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

     นายอนันต์  สุวรรณรัตน์  ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีพื้นที่เกษตรกรรมมากกว่า 149 ล้านไร่  แต่พื้นที่ปลูกพืชส่วนใหญ่ธาตุอาหารในดินถูกพืชดึงไปใช้ประโยชน์และขาดการปรับปรุงบำรุงดิน  ทำให้ผลผลิตพืชลดน้อยลง  เกษตรกรจึงต้องพึ่งพาการใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มผลผลิตโดยมี  ความเชื่อว่าหากใส่ปุ๋ยเคมีในปริมาณมากจะทำให้พืชให้ผลผลิตมากหรือบางรายใส่ตามความเคยชินเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตจากการใช้ปุ๋ยที่สูงขึ้น   ซึ่งหลักการใส่ปุ๋ยเพื่อให้พืชได้รับประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพตามหลักวิชาการ

    ดังนั้นเกษตรกร ต้องรู้จักศักยภาพของดินในพื้นที่ต้องการปลูกพืชก่อนว่ามีความสมบูรณ์มากน้อยเพียงใด    เนื่องจากการใส่ปุ๋ยจำเป็นต้องพิจารณาความต้องการธาตุอาหารของพืชร่วมกับคุณลักษณะของดิน   ซึ่งนอกจากจะช่วยให้พืชได้รับธาตุอาหารตรงตามความต้องการแล้วยังช่วยประหยัดต้นทุนการใช้ปุ๋ยให้เกษตรกรได้อย่างมากอีกด้วย  

     กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมองค์ความรู้และเทคโนโลยีเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร   ดังนั้นจึงมีแนวคิดให้กรมวิชาการเกษตรซึ่งมีองค์ความรู้ทางวิชาการความต้องการธาตุอาหารเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชแต่ละชนิดและแต่ละช่วงเวลาการเจริญเติบโต  

      ในขณะที่กรมพัฒนาที่ดินมีฐานข้อมูลชุดดินอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 300 ชนิด  โดยให้ทั้ง 2 หน่วยงานนำองค์ความรู้ทั้งด้านพืชและดินมาผนวกกันจัดทำเป็นฐานข้อมูลให้คำแนะนำการใส่ปุ๋ยที่ถูกชนิดและในอัตราที่เหมาะสมต่อความต้องการของพืชและตรงกับศักยภาพของดิน  โดยมีหลักคิดที่สำคัญว่าต้องเป็นเทคโนโลยีที่เกษตรกรสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ทั้งด้านพืช ดิน และปุ๋ย ได้อย่างครบถ้วน สะดวก  รวดเร็ว  มีความแม่นยำ  ใช้งานง่าย ที่สำคัญต้องประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้เกษตรกร

      นายอนันต์ กล่าวอีกว่า จากการรวบรวมและจัดทำฐานข้อมูลความต้องการธาตุอาหารพืชจากกรมวิชาการเกษตรและฐานข้อมูลชุดดินจากกรมพัฒนาที่ดินทั้ง 2 หน่วยงานได้ร่วมกันจัดทำแอปพลิเคชัน “รู้จริง พืช ดิน ปุ๋ย” เป็นเครื่องมือให้คำแนะนำการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช  โดยแอปพลิเคชันดังกล่าวสามารถที่จะวิเคราะห์คุณลักษณะเบื้องต้นของดินให้ทราบผลภายในระยะเวลาที่รวดเร็วแบบเรียลไทม์   พร้อมให้คำแนะนำสูตรปุ๋ยและปริมาณการใช้ที่เหมาะสมเพียงพอต่อความต้องการของพืชจำนวน 3 สูตร

      ทั้งนี้เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรเลือกใช้ตามความต้องการ  ผลผลิตขั้นต่ำและราคาต้นทุนปุ๋ยที่ลดลง  รวมทั้งยังให้คำแนะนำการปรับสภาพความเป็นกรดด่างของดินด้วยปูนทางการเกษตรเพื่อปรับสภาพของดินให้เหมาะสมต่อการใช้ปุ๋ยเคมีให้มากขึ้น  ซึ่งจะช่วยเพิ่มทั้งปริมาณและคุณภาพให้แก่ผลผลิต  โดยเกษตรกรไม่ต้องเก็บตัวอย่างดินเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ธาตุอาหารหรือใช้ชุดตรวจสอบและรอผลการวิเคราะห์    ซึ่งมีกระบวนการหลายขั้นตอนและใช้ระยะเวลานานในการรอผลวิเคราะห์ โดยแอปพลิเคชัน “รู้จริง พืช ดิน ปุ๋ย” มีฐานข้อมูลพืชและดินให้บริการแล้วจำนวน 63 ชนิดพืช   ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกทั่วประเทศ   

      ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวต่อไปว่า พืชแต่ละชนิดและแต่ละช่วงของการเจริญเติบโตมีความต้องการธาตุอาหารในปริมาณที่แตกต่างกัน  ถ้าใช้ปุ๋ยสูตรที่ไม่ตรงกับความต้องการของพืชและไม่ถูกต้องกับสภาพของดิน  ปุ๋ยก็จะไม่ช่วยให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นตามที่ต้องการ  ทำให้เกษตรกรมีต้นทุนจากการซื้อปุ๋ยที่ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน  ซึ่งแอปพลิเคชัน“รู้จริง พืช  ดิน ปุ๋ย” จะเป็นตัวช่วยให้คำแนะนำการใช้ปุ๋ยเคมีสูตรที่ถูกต้องและปริมาณการใช้ที่เหมาะสมเพียงพอต่อความต้องการของพืชและตรงตามศักยภาพของดิน  ช่วยลดต้นทุนการซื้อปุ๋ยให้เกษตรกร  

     “จุดเด่นของแอปพลิเคชันนี้อยู่ที่ความสะดวกและรู้ผลทันที  เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปฯ ลงในสมาร์ทโฟน  ลงทะเบียน  กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน เพื่อเข้าสู่ระบบขอรับคำแนะนำการใช้ปุ๋ย ซึ่งแอฟฯ จะแจ้งคำแนะนำสูตรปุ๋ยและอัตราการใช้ให้ทราบทันที   ถือเป็นนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีแอปพลิเคชันเดียวในประเทศไทย ที่ให้คำแนะนำการใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับความต้องการพืชและตรงตามสภาพดินที่ครบถ้วน  แม่นยำ  รู้ผลไว ใช้งานง่าย  ช่วยลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยให้แก่เกษตรกรได้อย่างแท้จริง” นายอนันต์ กล่าว