11 สมาคมเกษตร บุกทำเนียบฯ ร้อง “ลุงตู่” แก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรด่วน หลังแบนพาราควอต

  •  
  •  
  •  
  •  

แกนนำเกษตรกรจาก 11 สมาคม บุกทำเนียบฯ ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หลังถูกเมินมาแล้วหลายหน  จี้ให้เร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร และขอให้ทบทวนการยกเลิกสารพาราควอต ที่กรมวิชาการเกษตร ไร้แนวทางจัดการและไม่มีสารทดแทน ชี้ที่แนะนำสารเคมีตัวใหม่ “กลูโฟซิเนต” ราคาสูงลิ่ว คุณสมบัติ และประสิทธิภาพแตกต่างกับพาราควอตอย่างสิ้นเชิง แถมทำให้เกิดความเสียหายต่อพืชที่ปลูกมากกว่าเดิมเสียอีก 

    วันที่ 3 สิงหาคม 2563 ได้มีตัวแทยแกนน้ำเกษตรกรจาก 11 สมาคมด้านการเกษตร นำโดยนายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย และนายกสมาคมเกษตรปลอดภัย เดินไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์ต้อพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้ช่วยแก้ปัญหาความเดือนร้อนของเกษตรกรหลัลงที่แบนสารเคมี การเกษตร (พาราคาวอต) อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ที่พยายามยื่นไปแล้วหลายครั้ง

       นายสกรรณื กล่าวว่า กลุ่มเกษตรกรได้เดินทางและทำหนังสือมาร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับแนวทางการจัดการปัญหาที่ชัดเจน เพราะนับตั้งแต่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา มีคำสั่งกรมวิชาการเกษตร ไม่ให้ใช้หรือครอบครองสารพาราควอต หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และปรับเงินสูงสุด 1 ล้านบาท เกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ อ้อย ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพดหวานและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และผลไม้ ประสบปัญหาและเสียหายอย่างหนัก

      เนื่องจากภาครัฐยังไม่มีมาตรการรองรับที่ชัดเจน ไร้มาตรการเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกร มีแต่เสนอสารเคมีเกษตรอื่น ๆ มาให้เป็นทางเลือก แต่ไม่สามารถใช้แทนพาราควอตได้ โดยเฉพาะกลูโฟซิเนต ซึ่งกรมวิชาการเกษตรแนะนำ คุณสมบัติ ราคาและประสิทธิภาพแตกต่างกับพาราควอตอย่างสิ้นเชิง แถมทำให้เกิดความเสียหายต่อพืชปลูกมากกว่าเดิม 

      ทั้งนี้สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากเครือข่ายผ่าน 11 สมาคมด้านการเกษตร ได้แก่ สมาคมเกษตรปลอดภัย สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพร สมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนและมังคุดแห่งประเทศไทย ชมรมผู้ปลูกมะนาวแห่งประเทศไทย ศูนย์ประสานงานโรงงานน้ำตาลลุ่มแม่น้ำกลอง กลุ่มเกษตรกรผู้รวบรวมข้าวโพดหวาน สมาคมส่งเสริมธุรกิจพืชอาหารสัตว์ สมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย สภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย และกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังจังหวัดนครราชสีมา พบว่า ช่วงฤดูฝนนี้ วัชพืชเติบโตอย่างรวดเร็ว แย่งอาหารจากพืชปลูก การใช้แรงงานคนกำจัดวัชพืชแทนพาราควอต ไม่สามารถทำได้เลย เพราะต้นทุนสูง แรงงานภาคการเกษตรไม่เพียงพอ เครื่องจักรกลจะใช้ก็มีข้อจำกัดทั้งในแง่ต้นทุนและพื้นที่แต่ละแปลงปลูก 

       “เกษตรกรไทย จึงต้องรับกรรม รับภาระจากแนวทางการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐที่ไม่เป็นธรรม จึงขอร้องทุกข์ต่อ นายกรัฐมนตรี ให้ลงมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนโดยด่วน และทบทวนมาตรการยกเลิกพาราควอตโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เกษตรกรได้ยื่นหนังสือมาแล้วหลายครั้ง และครั้งนี้ หวังว่า นายกรัฐมนตรี จะให้ความเป็นธรรมแก่เกษตรกรไทย เพราะเกษตรกรไม่รู้จะพึ่งใครอีกแล้ว สำหรับแนวทางที่ดีที่สุด สมาพันธ์เกษตรปลอดภัยมีความคิดเห็นว่า ควรส่งเสริมมาตรการจำกัดการใช้สารเคมีเกษตร และฝึกอบรมเกษตรกรทั่วประเทศให้มีความรู้ เพื่อให้สามารถใช้สารเคมีเกษตรได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย ตามแนวทางการปฏิบัติทางเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) หรือเกษตรปลอดภัย นั่นเอง” นายสุกรรณ์ กล่าว