กรมการข้าวฮึดสู้ หันมาพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีความแตกต่างทั้งในเรื่องของความโดดเด่นของพันธุ์ข้าว ความหอม รสชาติ ผลผลิต ให้เป็นที่ต้องการของตลาดโลก หลังจากเสียแชมป์ส่งออกมาหลายปี ล่าสุดเตรียมจัดงาน “การประกวดข้าวเพื่อรองรับและส่งเสริมการส่งออกของตลาดข้าวโลก ประจำปี 2563” หวังเฟ้นหาสุดยอดข้าวไทย 5 สายพันธุ์ ตั้งเป้าทวงแชมป์ส่งออกข้าวอีก
นายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์ตลาดข้าวมีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น หลายประเทศมีการพัฒนาศักยภาพในการผลิตข้าวเพื่อบริโภคภายในประเทศ และสามารถส่งออกจนเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ในขณะที่หลายประเทศสามารถปลูกข้าวได้ปริมาณมาก แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศ
สำหรับประเทศไทยถือเป็นผู้นำการส่งออกข้าวของโลกมาหลายปี แต่ในช่วงปี 2559-2562 ประเทศไทยปริมาณการส่งออกข้าวไทยที่ลดลง ประกอบกับต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันในเรื่องของราคากับประเทศส่งออกคู่แข่งต่างๆ อาทิ ประเทศอินเดีย เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมาเป็นตั้น ดังนั้นประเทศไทยจึงควรพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีความแตกต่างทั้งในเรื่องของความโดดเด่นของพันธุ์ข้าว ความหอม รสชาติ ผลผลิต รวมไปถึงเทคโนโลยีการผลิตที่สามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวให้กับเกษตรกรได้
ด้านนางสาวนนทิชา วรรณสว่าง รองอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่าว่า เพื่อการค้าหาข้าวที่มีคุณภาพและลักษณะเด่นทาง กรมการข้าวได้กำหนดจัดงาน “การประกวดข้าวเพื่อรองรับและส่งเสริมการส่งออกของตลาดข้าวโลก ประจำปี 2563” ขึ้นมาในระหว่างวันที่ 16 – 17 กรกฎาคม 2563 ณ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นอีกกลไกหนึ่งในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความคิดเห็นระหว่างนักวิชาการ นักวิจัย เกษตรกร และผู้เกี่ยวข้องที่ปฏิบัติงานด้านการปรับปรุงพันธุ์ข้าวจากทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันพัฒนาพันธุ์ข้าวให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีขบวนการพัฒนาและส่งเสริมการพัฒนาพันธุ์ให้ตรงพันธุ์ตั้งแต่ตันน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิสมาคมรวบรวมและผลิตเมล็ดพันธุ์สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ฯลฯ มาร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้นโยบายการตลาดนำการผลิต ให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้ที่แน่นอน มีความมั่นคงในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม สามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดได้ทั้งระดับจังหวัดและระดับประเทศ โดยประสานความร่วมมือให้เกิดความเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน
นางสาวนนทิชา กล่าวอีกว่า การจัดงานในครั้งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะช่วยให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ พร้อม ประชาสัมพันธ์การพัฒนาพันธุ์ข้าว เพื่อรองรับและส่งเสริมการส่งออกข้าวสู่ตลาดโลก นำไปสู่แนวทางการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางการตลาดข้าวไทยของผู้บริโภคภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งภายในงานได้จัดนิทรรศการประกวดข้าวที่โดดเด่น 5 ประเภท ได้แก่ ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวหอมไทย ข้าวขาว พื้นนุ่ม ข้าวขาวพื้นแข็ง และข้าวเหนียว
ทั้งนี้เพื่อรองรับการส่งออกของตลาดข้าวโลกและใช้เป็นฐานข้อมูลรองรับการประกวดข้าวโลกในแต่ละปี อีกทั้งการจัดงานดังกล่าวยังเป็นประโยชน์ในการเพิ่มแนวคิดมุมมองทางด้านกำลังการผลิต ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้กับงานวิจัยทางด้านข้าว และยังเป็นการเชื่อมโยงพัฒนาเครือข่ายนักวิจัยด้านต่างๆ ที่จะเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการ ให้มีโอกาสเผยแพร่สู่สาธารณชน ก่อให้เกิดการนำไปใช้อย่างแพร่หลายและให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งยังเป็นการแสดงภาพลัษณ์และผลงานที่ดีของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีกด้วย