กล้วยหอมทองต้องเป็นของไทย “คิง ฟรุทส์” จดสิทธิบัตรแล้ว

  •  
  •  
  •  
  •  

ดลมนัส กาเจ

“ถ้ากล้วยหอมทองต้องเป็นของไทย และการยื่นจดจดสิทธิบัตรกล้วยหอมไทยในครั้งนี้เพื่อการันตีว่ากล้วยหอมทองเป็นสมบัตรของประเทศไทย ไม่ใช่ของ คิง ฟรุทส์ เกษตรกรสามารถปลูกได้ตามปกติ” 

จากประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่ในวงการกล้วยหอมทอง มายาวนานตั้งแต่ปี 2539 ที่เริ่มต้นปลูก 30 ไร่ที่ทุ่งรังสิต อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี จนปัจจุบันขยายพื้นที่ปลูกทั้งของตัวเอง และเครือข่ายนับพันๆไร่ เพื่อป้อนตลาดทั้งโมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อ สายการบินชั้นนำ ของประเทศ และส่งออก ปีกว่า 6,000 ตัน ทำให้สองสามีภรรยา “เกรียงศักดิ์– เสาวณี วิเลปะนะ แห่ง บริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด  ยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจกล้วยหอมทองครบวงจรของประเทศไทย มองว่า กล้วยหอมทองของไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างไปจากประเทศอื่น หากปล่อยอาจมีสิทธิ์ที่จะทำให้ต่างชาติแอบจดลิขสิทธิ์เหมือนกับพืชอีหลายชนิดที่เคยเกิดขึ้น แม้กระทั่งข้าวหอมมะลิ ที่เกิดควบคู่กับชาวนาไทยมายาวนาน

ในที่สุด บริษัท คิง ฟรุทส์ ได้ร่วมมือกับนักวิจัยอิสระเพื่อการการวิจัย DNA ของกล้วยหอมไทย พบว่า กล้วยหอมทอง ที่มีคุณภาพจริงๆต้องปลูกในประเทศไทยจนได้รับรางวัยงานวิจัยดีเด่น พร้อมกับได้ทำการยื่นจดสิทธิบัตรกล้วยหอมไทยด้วย โดยเสาวนี ในฐานะกรรมผู้จัดการบริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด  บอกว่า ต่อไปถ้ากล้วยหอมทองต้องเป็นของไทย และการยื่นจดจดสิทธิบัตรกล้วยหอมไทยในครั้งนี้เพื่อการันตีว่ากล้วยหอมทองเป็นสมบัตรของประเทศไทย ไม่ใช่ของ คิง ฟรุทส์ เกษตรกรสามารถปลูกได้ตามปกติ (ตามในคลิป1 )

กว่าจะถึงวันนี้ของ “คิงฟรุทส์” คว้ารางวัลมามากมาย

กระนั้นกว่า จะถึงวันนี้ ของ บริษัท คิง ฟรุทส์ ไม่เพียงแต่มีผลงานเพียงวิจัยดีเด่นด้าน DNA ของกล้วยหอมทองเท่านั้น หากแต่ได้มีการวิจัย เพื่อการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย จนได้รับรางวัลมากมายทั้งในและต่างประเทศ (ติดตามคลิป 2 )

      นับเป็นอีกตัวอย่างของเกษตรยุคใหม่ ที่พัฒนาตัวเองจากเกษตรกรปลูกกล้วยหอมเพียง 30 ไร่ แต่วันนนี้  เกรียงศักดิ์– เสาวณี วิเลปะนะ แห่ง บริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด เป็นนักธุรกิจเกษตรอย่างเต็มตัวอย่างเต็มตัวและน่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง