กรมวิชาการเกษตร เปิดมะละกอฮอลแลนด์ได้พันธุ์ใหม่ “พันธุ์ศรีสะเกษ” หลังประสบผลสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์มายาวนานตั้งแต่ปี 2553 เผยมีลักษณะเด่น ปาดหน้าพันธุ์การค้า ต้นเตี้ยแค่ 128 เซ็นติเมตร ให้ผลผลผลิตดกต้นละ 24 กิโลกรัม เก็บเกี่ยวได้เร็วกว่าพันธุ์การค้าถึง 45 วัน เนื้อหนา สีเนื้อส้มอมแดงเข้มสม่ำเสมอกันทั้งผลน่ารับประทาน รูปทรงกระบอก ช่วยลดความเสียหายจากการขนส่งได้เป็นอย่างดี
นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า มะละกอจัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญชนิดหนึ่งของประเทศ ผลมะละกอนอกจากใช้บริโภคสดแล้วยังใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูปหลายชนิด โดยเฉพาะมะละกอฮอลแลนด์จัดเป็นมะละกอเพื่อรับประทานสุกที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคสูง ซึ่งราคาซื้อขายในท้องตลาดจะสูงกว่าพันธุ์แขกดำหรือแขกนวลกิโลกรัมละ 10 บาท แต่ปัญหาของมะละกอฮอลแลนด์ คือ ขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ดี พันธุ์ราคาแพง พันธุ์ทั่วไปมีความแปรปรวนในพันธุ์สูง ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงและคุณภาพผลผลิตต่ำ
เสริมสุข สลักเพ็ชร์
ดังนั้นศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ กรมวิชาการเกษตร จึงได้ทำการปรับปรุงพันธุ์มะละกอฮอลแลนด์สายพันธุ์แท้ที่ให้ผลผลิตสูงมากกว่าพันธุ์การค้า ออกดอกติดผลเร็ว ต้นเตี้ย ผลเป็นทรงกระบอกเพื่อลดความเสียหายจากการขนส่ง เนื้อมีสีส้มแดงสวยงาม และมีคุณภาพดีสม่ำเสมอ เพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคและเกษตรกร นอกจากนี้ยังต้องมีความสม่ำเสมอของพันธุ์ เพื่อให้เกษตรกรสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อปลูกในปีต่อไปได้ ช่วยลดต้นทุนการผลิตด้านเมล็ดพันธุ์ และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้เกษตรกรต่อไป
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวอีกว่า ในปี 2553 ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ได้รวบรวมพันธุ์มะละกอฮอลแลนด์จาก 7 แหล่ง จำนวน 27 ตัวอย่าง มาปลูกเพื่อคัดเลือกต้นที่มีลักษณะทางการเกษตรดีตามเกณฑ์การคัดเลือกพันธุ์ เช่น ออกดอกติดผลเร็ว ต้นเตี้ย ลำต้นใหญ่ ผลขนาดปานกลาง-ใหญ่ ผลทรงกระบอก สีผิวผลเหลืองและสีเนื้อส้มอมแดง เนื้อหนา หวานหอม โดยคัดเลือกได้ 25 สายพันธุ์ นำไปปลูกเปรียบเทียบพันธุ์ คัดเลือกได้ 12 สายพันธุ์ และปลูกทดสอบพันธุ์และคัดเลือกพันธุ์ได้ 1 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ ศก.2-6-12 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีศักยภาพการให้ผลผลิตสูงและเก็บเกี่ยวได้เร็วกว่ามะละกอฮอลแลนด์พันธุ์การค้า ลำต้นใหญ่ ต้นเตี้ย ทรงพุ่มเล็ก และคุณภาพผลผลิตดี โดยได้เสนอเป็นพันธุ์แนะนำของกรมวิชาการเกษตรในปี 2562 ใช้ชื่อว่า “มะละกอฮอลแลนด์พันธุ์ศรีสะเกษ”
สำหรับจุดเด่นหรือลักษณะเด่นของมะละกอฮอลแลนด์พันธุ์ศรีสะเกษ ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์การค้าโดยให้ผลผลิตเฉลี่ย 24.5 กิโลกรัมต่อต้น ที่สำคัญคือลักษณะต้นเตี้ย ทำให้เก็บเกี่ยวสะดวก ความสูงถึงปลายยอด 128 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นใหญ่ แข็งแรงและสมดุลที่จะรับน้ำหนักผลผลิตได้มาก ซึ่งปกติมะละกอฮอลแลนด์จะมีจำนวนผลมากกว่ามะละกอพันธุ์อื่น โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น 4.7 เซนติเมตร เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็ว โดยสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตหลังจากปลูก 209 วัน ซึ่งเร็วกว่าพันธุ์การค้า 46 วัน
นอกจากนี้มีความหนาเนื้อเฉลี่ย 3.0 เซนติเมตร หนากว่าพันธุ์การค้า และเนื้อมีสีส้มอมแดงเข้มกว่าพันธุ์การค้าโดยสีมีความสม่ำเสมอกันทั้งผล ในปี 2562 ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษได้จัดทำแปลงแม่พันธุ์เพื่อขยายพันธุ์ในพื้นที่ 1 ไร่ 300 ต้น ได้เมล็ดพันธุ์หลักไม่น้อยกว่า 8 กิโลกรัม สามารถนำไปปลูกได้ในพื้นที่ประมาณ 70 ไร่