ธ.ก.ส. จับมือ สวทช.หนุนพัฒนาวนัตกรรมเกษตรดิจิทัล สร้างมิติใหม่ในวงการเพาะปลูก

  •  
  •  
  •  
  •  

ธ.ก.ส.จับมือ สวทช. และพันธมิตร ลงนาม MOU ว่าด้วย “ความร่วมมือทางวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยี” เพื่อร่วมพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมการเกษตรดิจิทัล หวังส่งเสริมให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ SMEs เกษตร นำเทคโนโลยีมาใช้ในการเพาะปลูกให้มีประสิทธภาพ เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน สร้างขีดความสามารถการแข่งขันของห่วงโซ่คุณค่าอุตสาหกรรมต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาทางการเงิน และการสาธารณสุข เพื่อนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเกษตรกรไทย

     วันที่21 พฤศจิกายน 2562 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษต (ธ.ก.ส.)ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วย “ความร่วมมือทางวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยี” ณ โถงชั้น 2 ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ บางเขน กรุงเทพฯ  โดยมี นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)กับ นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุลผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมลงนามเพื่อร่วมมือและส่งเสริมการสร้างระบบนิเวศด้านนวัตกรรมการเกษตรดิจิทัล สุขภาพการแพทย์สาธารณสุข สังคม และองค์กรโดยใช้กลุ่มเทคโนโลยีเป้าหมาย หรือ Technology Development Groups (TDGs)นำไปวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์ข้อมูล ต่อยอดเพื่อสร้างความยั่งยืนและความสามารถในการแข่งขันให้แก่อุตสาหกรรมภาคเกษตรไทย

      นายอภิรมย์  กล่าวว่า ธ.ก.ส.มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตร ให้เข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยี เพื่อนำมาพัฒนากระบวนการเพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น มีการส่งเสริมให้ปรับการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรที่ทันสมัย โดยการร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้เกษตรกรและผู้ประกอบการด้านการเกษตร สามารถนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากงานวิจัยมาใช้เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน ลดการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศได้ นอกจากนี้ ธ.ก.ส. และ สวทช. ยังร่วมแลกเปลี่ยนและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการเกษตรที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของทั้งสองฝ่าย ผ่านสื่อต่างๆ อันเป็นประโยชน์ต่อสังคม ทั้งภาคอุตสาหกรรมการเกษตรการผลิต การบริการทางการเงิน และบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อให้บริการแก่ประชาชนและเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเกษตรกรไทยและสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศต่อไป


       ด้านนายณรงค์ กล่าวว่า สวทช. ดำเนินงานด้านการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมที่มีคุณภาพ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการสร้างนวัตกรรมที่ใช้ได้จริง ซึ่งการลงนามความร่วมมือกับ ธ.ก.ส. ในการดำเนินงานระยะแรก สวทช. ได้สนับสนุนเทคโนโลยีให้กับเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการให้กับ ธ.ก.ส. อาทิ ด้านการเกษตร ได้แก่ การพัฒนาแอปพลิเคชั่นระบบบริหารจัดการปฏิทินการเพาะปลูก “ชาวเกษตร”, ระบบAquaGrow ซึ่งประกอบด้วย เครื่องวัดออกซิเจนละลายในน้ำ (DO Meter)เครื่องมินิมอลแลบ สำหรับใช้ติดตามสมดุลแบคทีเรียและ อุปกรณ์สำหรับวัดสารเคมีในน้ำ (ChemEye)รวมทั้งระบบโรงเรือนอัจฉริยะ ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์ ระบบ IoT และระบบควบคุม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพืชผัก ด้านการเงิน ได้พัฒนาเครื่องสุ่มเชิงควอนตัม (RandomQ) สำหรับใช้ในการจับรางวัลพิเศษของกิจกรรมการจับรางวัลเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค และด้านสารสนเทศ นำระบบ TPMAP (Thai People Map and Analytics Platform: TPMAP) ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า สำหรับใช้ในการพัฒนาคนตลอดทุกช่วงวัยโดยเริ่มที่การระบุปัญหาความยากจนและขยายเป็นเรื่องการพัฒนาคนมาใช้ เป็นต้น

       ด้วยประสิทธิภาพและศักยภาพของกลุ่มเทคโนโลยีเป้าหมาย หรือ Technology Development Groups (TDGs) รวมทั้งการผสานความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการเทคโนโลยีการเกษตรจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของห่วงโซ่คุณค่า และสร้างการเติบโตของภาคเกษตรและอุตสาหกรรมชีวภาพ ทั้งพัฒนาสมรรถนะความสามารถและกระบวนการเรียนรู้ของเกษตรกรและชุมชน สร้างการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือจากภาคการผลิตสู่ภาคการตลาดและความยั่งยืนให้กับประเทศในมิติต่างๆ เช่น การพัฒนานวัตกรรมการเกษตร พัฒนานวัตกรรมบริการดิจิทัล (Digital Service Innovation) และการวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์ด้วยข้อมูล (Strategic Data Analysis) เพื่อเพิ่มมูลค่าการบริการลูกค้าของ ธ.ก.ส. ให้ได้รับประโยชน์และเกิดการต่อยอดต่อไป